ผลไม้แต่ละชนิดมีลักษณะไม่เหมือนกัน ซึ่งมีวิธีการสังเกตเลือกซื้อแตกต่างกันไป เหมาะสำหรับแม่บ้านทุกคนที่ออกไปจ่ายตลาดซื้อผลไม้เข้าบ้านกัน หลักการเลือกนั้นไม่ยาก ทำให้เราได้ผลไม้ที่มีคุณภาพดีกลับบ้าน ลองมาดูกันว่ามีวิธีการสังเกตผลไม้กันอย่างไรบ้าง
กล้วยหอม การเลือกกล้วยสุกนั้นสังเกตที่สีกล้วยต้องสีเหลืองทอง ไม่มีรอยช้ำ ก้านยังมีสีเขียวนิดหน่อย กล้วยสุกธรรมชาติจะหวานกว่ากล้วยที่ถูกบ่มให้สุก เปลือกไม่บาง
ลำไย เป็นผลไม้ที่มีในช่วงฤดูร้อนจะได้ลำไยที่มีรสหวาน สุกตามฤดู เทคนิคการดูสังเกตที่เปลือกของลำไยผิวจะเรียบเกลี้ยง รับรองผลหวานแน่นอน
ส้มเขียวหวาน หลักการดูส้มหวานสังเกตที่เปลือกส้มต้องขรุขระมีสีเหลืองส้ม ไม่เลือกลูกที่มันวาวหรือสีเขียวเพราะจะได้ส้มที่มีรสเปรี้ยว ส้มต้องผิวบางลูกกลมๆ
แตงโม ลูกแตงโมเวลาซื้อลองเอานิ้วเคาะเปลือกแตงโม ถ้าแตงโมสุกแล้วจะมีเสียงที่หนักแน่น แสดงว่าสุกเต็มที่แล้ว เปลือกต้องไม่มีรอยช้ำมีสีสวย
แอปเปิ้ล ลูกของแอปเปิ้ลต้องไม่มีรอย เนื้อแน่น ผิวเรียบสวย ลูกต้องดูสด ลองสังเกตที่ขั้วของแอปเปิ้ลต้องไม่แห้งเหี่ยว สามารถเก็บแช่ไว้ได้นาน 1-2 อาทิตย์เลยคะ
สตรอเบอร์รี่ หลักการเลือกซื้อดูที่ผิวต้องแน่นสีแดงสด ไม่มีสีดำคล่ำ ไม่เหี่ยว ผลต้องอวบอิ่ม มีกลิ่นหอม ถ้าลองบีบแล้วผลไม่เละ แต่ถ้าใครไม่ชอบหวานๆให้เลือกผลที่มีสีเขียวปนอยู่หน่อยๆ
มะม่วง การเลือกมะม่วงสีบางทีสุกไม่แน่นอน เดียวนี้นิยมบ่มแก๊สกันเร่งให้สุกเร็ว มะม่วงที่สุกเองตามธรรมนั้นผิวจะเหลืองสวย สีสม่ำเสมอ แตกต่างมะม่วงที่โดนบ่มมาสีผิวจะไม่สม่ำเสมอเท่าไรรสชาติไม่หวานเท่าสุกธรรมชาติเอง มะม่วงสุกเองสังเกตที่ขั้วต้องเรียบรสชาติจะหวานมาก
มังคุด หลักการสังเกตมังคุดนั้นเปลือกต้องมีสีม่วงแดงเข้ม ลูกเล็กๆจะหวานกว่าลูกใหญ่ ต้องไม่มีรอยแตกรอยยุบ ลูกมังคุดไม่แข็งมาก ขั้วสดอยู่
เงาะ การเลือกซื้อเงาะต้องเลือกลูกที่ใหญ่ๆเพราะจะมีเนื้อเยอะ สังเกตเปลือกและขนเงาะจะมีสีสด ไม่ดำเวลาแกะกินดูเนื้อไม่ติดเมล็ดและน้ำเงาะไม่แฉะเกินไป เนื้อไม่แห้งมากผลเงาะเท่าๆกัน
องุ่นแดงนอก สีขององุ่นนั้นต้องมีสีแดงคล้ำ ลูกต้องกลมไม่มีรอยช้ำหรือรอยถลอกให้เห็น ขนาดลูกองุ่นจะเท่าๆกัน รับรองจะได้องุ่นหวานแน่นอน
ลิ้นจี่ มีมากมายหลายพันธุ์ลูกจะไม่ใหญ่มาก สังเกตสีจะเป็นสีชมพูหรือแดงเข้ม