การดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย วิธีลดความอ้วน อาหารเพื่อสุขภาพ

การนวดนั้นในปัจจุบันเราได้มีการที่นวดกันนั้นอย่างหลากหลาย ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการนวดเพื่อสุขภาพนั้น เราก็ได้เป็นการนวดเพื่อที่จะได้มีการที่ผ่อนคลายในจุดต่างๆ และได้มีการที่นวดเพื่อช่วยในการที่เรานั้นได้มีการปวดอยู่ซึ่งในการที่เรานั้น ได้มีการที่นวดเพื่อที่จะทำการผ่อนคลายนั้นหรือได้มีการที่เรานั้นอยากที่จะทำการผ่อนคลายโดยการที่เรานั้นทำการนวด

ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการนวดจะทำให้เรานั้นสามารถที่จะมีการทำการช่วยลดความเคียดของการที่เรานั้น ได้มีการใช้ชีวิตประจำวัน และในการที่เรานั้นได้มีการทำการนวดในสถานที่ที่ดีนั้นจะเป็นการที่เรานั้นสามารถทำการผ่อนคลายได้อย่างมากที่สุดอีกด้วย และในการที่เรานั้นได้มีการทำการนวดเพื่อที่จะมีส่วนช่วยในการบรรเทาการที่เรานั้นได้มีการปวดอยู่

ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีอาการปวดต่างๆนั้น เราก็จะมีการที่สามารถทำการไปนวด เพื่อที่เรานั้นจะมีการทำบรรเทาอาการของเราที่ได้มีการทำการเป็นอยู่แล้ว ให้ได้มีการที่สามารถทำการหายปวดในจุดที่เรานั้นได้มีการเป็น หรือได้มีการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการทำการปวดได้น้อยลง ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการปวดเพื่อที่จะมีการบรรเทาอาการที่เรานั้นได้มีการปวด จะเป็นการที่เรานั้นได้มีการนวดเฉพาะในจุดที่เรานั้น

ได้มีการเป็น ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการไปนวดในร้านต่างๆที่เรานั้นจะมีการไปทำการนวด ในแต่ล่ะร้านนั้นจะมีการที่นวดอย่างแตกต่างกัน ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการนวดในบางร้านนั้นจะมีการหาย และในการที่เรานั้นได้มีการนวดในอีกร้านนั้นเราก็จะสามารถที่จะไม่หายในอาการที่เรานั้นเป็นก็ได้

ซึ่งในการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการไปทำการนวดกดจุดหรือการที่เรานั้นได้มีการนวดบรรเทานั้น เราจะสามารถที่จะมีการนวดได้จากการที่เรานั้นได้มีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการที่บาดเจ็บนั้น เราจะสามารถที่จะมีการที่เกิดได้อย่างหลายสาเหตุ  เช่นในการที่เรานั้นเกิดจากการที่เราเล่นกีฬาต่างๆ การที่เรานั้นได้มีการปวดจากการที่เรานั้นได้มีการทำกิจกรรมต่างๆนั้น เราก็สามารถที่จะไปทำการนวดเพื่อที่จะกดจุดและบรรเทาอาการปวดได้

 

สนับสนุนโดย  แทงบอล เว็บไหนดี

ในแต่ละวันที่เราจะต้องออกนอกบ้าน ไม่ว่าจะไปทำงานหรือว่าไปทำธุระข้างนอกบ้านอาจจะต้องใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำเป็นเวลานานหรือจะต้องเสียเวลาไปกับการเข้าห้องน้ำ ซึ่งจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับอาการท้องผูก อาการท้องผูกสามารถเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หากเรารู้ตัวว่าเรามีอาการเกี่ยวกับท้องผูกหรือลำไส้ของเราไม่ดี ระบบขับถ่ายไม่ปกติ เราต้องเริ่มแก้ไขปัญหาจากตัวเราเอง

โดยเริ่มจากเกี่ยวกับอาหารการกิน เพราะเราเชื่อว่าหลายๆคนอาจจะกินอาหารที่มีแต่เนื้อสัตว์ ไม่มีผักใบเขียว หรือแม้แต่ผลไม้ ซึ่งทำให้ระบบขับถ่ายของเราไม่ค่อยดี ซึ่งบางคนอาจจะเข้าห้องน้ำโดยอาทิตย์ละ 1 ครั้งและใช้เวลาในห้องน้ำเป็นเวลานาน เพราะจะต้องมีทำการเบ่งอุจจาระ ที่ยากเย็น อาจจะไม่เหมือนกับคนอื่นที่เข้าห้องน้ำโดยถ่ายเป็นประจำ

ดังนั้นเราควรที่จะเริ่มจากการปรับอาหารการกินให้ถูกสุขลักษณะเพื่อช่วยในเรื่องของอาหารที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายไม่ว่าคุณจะมีธาตุเบาหรือว่าธาตุหนักก็สามารถที่จะช่วยให้คุณลำไส้ที่ปกติและไม่ต้องท้องผูกอีกต่อไปเพราะเราจะมาบอกเกี่ยวกับอาหารที่ช่วยในเรื่องของการแก้ท้องผูกมีอะไรบ้าง

• ขนมปังโฮลวีท/ข้าวกล้อง/ข้าวโอ๊ต

ถ้าเราพูดถึงเกี่ยวกับการกินแป้งหรือว่าข้าวโอ๊ต แม้แต่ข้าวกล้องและขนมปังโฮลวีท เพราะทั้งหมดที่เราได้พูดไปนั้นเป็นการช่วยในเรื่องของการขับถ่ายเป็นอย่างดีเพราะทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปนั้นเป็นกากใยที่ช่วยในเรื่องของการรวบรวมกากใยมารวมกันที่อุจจาระจึงทำให้ลำไส้ของเรามีระบบขับถ่ายที่ขับของเสียออกมาได้เป็นอย่างดี 

• ธัญพืช     จะเป็นถั่วหรือธัญพืช ก็จะช่วยในเรื่องของการแก้ปัญหาท้องผูกได้อย่างดีเพราะว่าในถั่วและธัญพืชมีกากใยอาหารที่สูง และนอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มใยอาหารเพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ดีอีกด้วยแถมถั่วและธัญพืชอย่างเช่นถั่วแดง ยังช่วยในเรื่องของแบคทีเรียในร่างกายให้มีความสมดุลอีกด้วย
• นมเปรี้ยว/โยเกิร์ต   เป็นที่เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่านมเปรี้ยวหรือว่าโยเกิร์ตที่ช่วยในเรื่องของการเป็นนมหมักขาดมันเนย ที่ช่วยในเรื่องของการแก้อาการเกี่ยวกับท้องผูกได้เป็นอย่างดีนั่นเอง  ดังนั้นการที่เราเมื่อรู้ตัวว่าเรามีอาการเกี่ยวกับการท้องผูกเราสามารถที่จะหาซื้อนมเปรี้ยวหรือว่าโยเกริต มากินเพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการบีบตัวของลำไส้ทำให้เรามีระบบขับถ่ายที่ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง และก็จะทำให้เราไม่มีอุจาระที่แข็งจนทำให้เรารู้สึกเจ็บได้นั่นเอง 

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สูตรหวยแม่นๆเข้าทุกงวด

การที่เรานำผลไม้มาพอกหน้านั้นก็สามารถที่จะเป็นทางเลือกในการที่ทำให้ใบหน้าของเราดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่มีสารตกค้างใดๆเจือปนลงไปที่ใบหน้าของเรานั่นเองอีกทั้งยังทำให้ใบหน้าของเราดู มีสุขภาพที่ดีขึ้นนั่นเองอีกทั้งยังทำให้ห่างไกลเกี่ยวกับ รอยย่นหรือว่ารอยแก่ก่อนวัยอันควรนั่นเอง

แต่ว่าเดี๋ยวนี้ทางเลือกของการที่เราจะนำมามากหน้าหรือว่าพอกหน้านั้นก็อาจจะทำให้หลายๆคนเริ่มที่จะไม่ค่อยอยากจะมาหน้าการเริ่มที่จะใช้วิธีในการ   ฉีดเพื่อที่จะให้วิตามินซีเข้าร่างกายของเราได้เร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเองส่วนการเรื่องของการฉีดวิตามินซีเข้าร่างกาย เราควรที่จะเลือกคลีนิคที่ดีและการที่เราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกมื้อนั่นเอง

และหลายๆคนก็เริ่มที่จะหันมาใส่ใจในเรื่องของการกินวิตามินซีโดยเป็นแบบเม็ดเพราะว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็นำสิ่งใหม่ๆเข้ามามากมาย ด้วยการที่เรากินวิตามินซีก็จะช่วยให้หมายถึงใบหน้าของเรามีสุขภาพที่ดีและตรงจุดและเข้าไวมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับหลายๆคนก็เลือกที่จะเป็นการพอกหน้าหรือว่ามาร์คหน้าด้วยผลไม้เพราะว่าจะช่วยให้ได้รับวิตามินซีที่ตรงและไม่ทำให้มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ที่ใบหน้าของเรานั่นเองแต่อาจจะเสียเวลานิดหน่อยสำหรับคนที่พอมีเวลาในการมาร์คหน้านั่นเอง

         อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่หายากสักนิดหน่อยแต่ว่าก็มีขายตาม ถึงตลาดทั่วไปและอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามิน a c e และดอี และนอกจากนี้ยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์อย่างเช่นวิตามิน B1 B2 b6 อย่างนี้เป็นต้น โดยที่การเรานำมาพอกหน้าคือการที่เรานำผลสุกมาผ่าครึ่งผสมกับน้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

จากนั้นก็ทำการปั่นให้ละเอียดให้เข้ากันแล้วก็นำมาพอกหน้าโดยที่เราทิ้งไว้ประมาณซัก  10-15 นาที งั้นเราก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และเราจะเห็นผลได้ทันทีว่าผิวหน้าของเราดูเต่งตึงมากยิ่งขึ้น โดยที่เราไม่ต้องไปฉีดยาให้หน้าของเราตึงเลยนั่นเอง

       แตงโม เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นว่าเอาแตงโมมาพอกหน้านั่นเองแต่ว่าด้วยแร่ธาตุและวิตามินของแตงโมนั้นมีอยู่มาก การที่เราเอาแตงโมมาพอกหน้าจะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสดใสและเปล่งปลั่งมีประกายนั่นเองโดยที่เราหั่นแตงโมเป็นชิ้นบางๆจากนั้นก็นำมาวางบริเวณที่ใบหน้าของเราได้เลยจากนั้นเราก็ทิ้งไว้ประมาณสัก 10 ถึง 15 นาทีน้ำตาเราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของบนใบหน้าของเรานั่นเองและเมื่อเราสามารถทำได้อย่างเป็นประจำก็ทำได้และจะทำให้ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บตรงบาคาร่า

เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าการที่เรากินอาหารอะไรเค้าไปนั้นส่งผลถึงผิวเราได้ด้วยนะ วันนี้เราจะมาเพื่อนๆที่อยากหน้าใส ไร้สิวมาฝากกัน เพราะข้อเท็จจริงการที่เรากินอะไรเข้าไปนั้นจะส่งผลมาที่ร่างกายและสุขภาพเราโดยตรงเลยนะ แบบนี้เองเพื่อนๆต้องระวังด้วยนะ ถ้าอยากจะมีหน้าใส ไม่มีสิวต้องเลี่ยงการกินอาหารเหล่านี้ละ

ขนมหวาน เค้ก เบเกอรรี คุกกี้  โดนัท

อาหารที่เป็นขนมหวานจำพวก เค้ก เบเกอรรี คุกกี้ โดนัท พวกนี้ล้วนผสมไปด้วยน้ำตาลจำนวนมากและยังมีทั้งเนย นม ในปริมาณมาก อาหารที่หลายๆคนหลงใหลและชื่นชอบ แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าการกินขนมหวานพวกนี้ มีผลต่อผิวเราโดยตรงการที่เราได้รับปริมาณในจำนวนมากๆ ตัวคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล จะกลายเป็นไขมันสะสมแทนนะ และการที่เรามีไขมันเยอะๆก็สามารถทำให้รู้ขุมขนอุดตันได้ และเป็นสาเหตุของการที่หน้าไม่ใส่ และสิวตามมานั้นเอง 

นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม

อาหารจำพวกนม หรือ ผลิตภัณฑ์มาจากนมนั้น จะมีไขมันของนมนั้นเอง ยกตัวอย่าง นมสด ชีส ชานม นมพร่องมันเนย ล้วนยังคงให้ไขมันกับเราอยู่ ซึ่งหากเพื่อนๆกินไปในจำนวนมากๆ ยังไงก็จะทำให้เรามีโอกาสสิวได้ง่าย เพราะเวลาเรามีไขมันในร่างกายเยอะมันจะไปสะสมตามจุดต่างๆ และยิ่งอากาศบ้านเราร้อน เลยมีความเป็นไปได้สูงมาที่จะทำให้ไขมันไปอุดตันบนใบหน้าและกลายเป็นสิวนั้นเอง

อาหารฟาสต์ฟู้ด 

อาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อนๆรู้อยู่แล้วว่าเป็นอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่อร่อยมาก เลยทำให้ใครหลายๆคนชอบที่จะกินอาหารฟาสต์ฟู้ดนั้นเงอ แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าจะเป็นเฟรนด์ฟราย แฮมเบอร์เกอร์ นักเก็ต นั้นเป็นแหล่งสะสมไขมันตัวดีเลย เพราะกระบวนการผลิตแต่ละอย่างจะต้องผ่านการทอดก็ดี หรือ ผ่านการใช้น้ำมันนั้นเอง และการเรากินอาหารเหล่านี้เป้นจำนวนมากทำให้ร่างกายได้รับน้ำมันมาเป็นจำนวนมากและกลายเป็นส่วนเกินในร่างกายนั้นเอง จนทำให้เกิดการอุดตันจากรูขุมขนและเกิดสิวได้ง่ายมากๆ

อาหารกรป๋องและอาหารแช่แข็ง 

อาหารกระป๋องและอาหารแช่แข็ง ทำไมถึงมีอายุอาหารนานๆ เพื่อนๆเคยสังเกตุไหม นั้นเป็นเพราะอาหารเหล่านี้ล้วนใช้ สารกันเสียหรือสารกันบูดในอาหารนั้นเอง ซึ่งหากเราได้กินอาหารเหล่านี้เข้าไปในจำนวนมากๆ จะทำให้ร่างกายและผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย เพราะสารเหล่านี้ใม่ใช่สิ่งที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งมันอาจส่งผลให้เพื่อนๆบางคนเกิดสิวเพราะแพ้สารเหล่านี้ได้นะ

 

สนับสนุนโดย  สมัครสมาชิกหวยออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ

               สำหรับโรคมะเร็งเป็นโรคที่คนไทยเป็นมากที่สุดอันดับต้นๆโรคมะเร็งนั้นมีด้วยกันหลายจุดไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอด,มะเร็งตับ , มะเร็งปากมดลูก,  มะเร็งในลำไส้ , มะเร็งในช่องปากและยังมีอีกหลายที่มากมายที่สามารถเกิดมะเร็งได้ทั้งหมดนับได้ว่าทุกส่วนในร่างกายของเรานั้นสามารถเป็นโรคมะเร็งได้ทุกส่วนเลยทีเดียวซึ่งบางครั้งถ้าหากเราเป็นมะเร็งชนิดหนึ่งก็สามารถลามไปยังจุดอื่นๆภายในร่างกายของเราได้อย่างไร

ก็ตามวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของมะเร็งปอด ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่มักจะเป็นมะเร็งชนิดนี้กันมากและจากการศึกษาข้อมูลกับทางคุณหมอหรือตามตำราเรียนต่างๆเรามักจะพูดถึงเรื่องของต้นเหตุของการเกิดมะเร็งปอดหรือมะเร็งตับว่ามาจากสาเหตุของการสูบบุหรี่จัดนั่นเองแต่อย่างไรก็ตามมีบางคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลยแต่กลับพบว่าตนเองนั้นเป็นมะเร็งที่ปอดหรือเป็นมะเร็งที่ตับดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดกันถึงว่าสาเหตุของคนที่เป็นมะเร็งที่ปอดหรือที่ตับนั้นมาจากอะไรได้บ้าง 

              เชื่อหรือไม่ว่าอันดับหนึ่งที่ทำให้คนเป็นมะเร็งที่ปอดหรือมะเร็งที่ตับซึ่งสาเหตุมาจากควันของบุหรี่นั้นมาจากการที่เราอยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่นั้นเองตัวเราเองนั้นอาจจะไม่สูบบุหรี่แต่หากเราไปยืนใกล้คนที่สูบบุหรี่เราจะโสดควันบุหรี่เข้าไปในร่างกายมากกว่าคนที่สูบบุหรี่นั่นก็เพราะว่าเมื่อคนที่สูบบุหรี่เราจะเห็นได้ว่าเขามักจะพ่นควันออกจากตัวของเขามากกว่าที่จะดูดเก็บเข้าไปไว้ในร่างกายในขณะที่เรานั้นไม่ได้สูบบุหรี่

แต่เราสูดอากาศหายใจเข้าไปในร่างกายทำให้เรานั้นสูดควันของบุหรี่เข้าไปที่ร่างกายด้วยส่งผลให้คนต่างๆไปทำลายปอดและตับในร่างกายของเราจนเกิดเป็นปัญหาตามมาเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่ปอดหรือมะเร็งที่ตับนั่นเองดังนั้นจึงทำให้เราต้องระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องของการอยู่ใกล้กับคนที่สูบบุหรี่หรือในปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่าในต่างประเทศ

หรือแม้แต่ประเทศไทยบางพื้นที่จะมีการห้ามคนสูบบุหรี่ซึ่งถ้าจะสูบจะมีโซนที่จัดเฉพาะให้กับคนสูบบุหรี่เอาไว้สูบเท่านั้นและถ้าหากใครฝ่าฝืนมาสูบบุหรี่ตรงที่ห้ามสูบก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

            อย่างไรก็ตามสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปอดหรือมะเร็งที่ตับนั้นไม่ได้เกิดจากสูตรเอาควันพิษจากบุหรี่เข้าไปอย่างเดียวเท่านั้นยังมีควันจากรถยนต์หรือยังมีสาเหตุอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งปอดและมะเร็งปากมดลูกได้เช่นเดียวกันดังนั้นทางที่ดีที่สุดเราจึงควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงพักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่า บิกินี่

อาการเลือดกำเดาไหล หมายถึงการมีเลือดออกจากโพรงจมูก ทางด้านหน้าหรือหลังโพรงจมูก อาจออกข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย และส่วนมากพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งตำแหน่งที่เลือดกำเดาไหลนั้น แบ่งได้ดังนี้

เลือดออกจากด้านหน้าโพรงจมูก ซึ่งพบได้ร้อยละ 90 ของเลือดกำเดาไหลทั้งหมด มักพบในเด็ก ที่มีประวัติแคะจมูก หรือ มีเยื่อจมูกอักเสบ 

เลือดออกจากด้านหลังของโพรงจมูก คือมีเลือดไหลลงคอ ซึ่งจะมีอาการรุนแรงกว่า และพบได้ในผู้ป่วยที่สูงวัยที่มีความดันโลหิตสูง 

เลือดออกจากด้านบนของโพรงจมูก ตำแหน่งนี้พบได้น้อยกว่าสองตำแหน่งแรก โดยอาจจะเกิดจากการผ่าตัดไซนัส อุบัติบริเวณศีรษะ หรือเนื้องอกบางชนิด

และทำไมเลือดกำเดาถึงไหล ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้อธิบายว่า เลือดกำเดาไหล เพราะภาวะโรคในจมูก คืออาจจะเกิดจากการที่มีก้อนในจมูก หรือก้อนเนื้องอกหลังโพรงจมูก รวมถึงการติดเชื้อต่างๆ ที่ทำให้มีแรงดัน เกิดอาการคัดจมูกหรือจาม จนเส้นเลือดฝอยแตก และเกิดเป็นเลือดกำเดาไหลออกมา หรืออาจจะมาจากการได้รับอุบัติเหตุแล้วแล้วทำให้ผนังจมูกคด จึงทำให้เกิดเลือดกำเดได้ รวมถึงการใช้ย่าพ่นสเตียรอยด์รักษาภูมิแพ้ เพราะถ้าพ่นไม่ถูกวิธี อาจทำให้ผนังจมูกบาง และเป็นเหตุให้เลือดได้เหมือนกัน ส่วนอีกสาเหตุหนึ่ง การที่เลือดกำเดาไหล เพราะความผิดปรกติที่เกิดจากร่างกาย ได้แก่คนที่มีโรคประจำตัว เป็นโรคเลือดที่ทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปรกติ โดยมักจะเป็นตามเยื่อบุ เลือดออกง่าย ตามไรฟัน หรือจมูก

ส่วนในภาวะเลือดกำเดาที่ไหลในเด็กนั้น สามารถพบได้บ่อยในเด็กเล็ก แต่ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง และเลือดจะหยุดได้เองภายใน 10-15 นาที ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก เนื่องจากอากาศแห้ง โดยเฉพาะวันที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด ร่างกายขาดวิตามินซี หรือเกิดจากการกระทบกระเทือนทางอุบัติเหตุ และความผิดปรกติทางร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากพบว่าลูกเลือดกำเดาไหลบ่อยไม่ควรนิ่งนอนใจ ก็อาจเป็นอาการของโรคที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

โดยอาการที่ต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์นั้น คือ หากเลือดกำเดาไหลนาน ร่วมกับที่ผิวหนังมีรอยเลือดออก เช่น มีจ้ำเขียว มีจุดแดง หรือจุดเลือดออกตามตัวร่างกาย , มีเลือดออกตามไรฟัน หรือลิ้นร่วมด้วย, มีปัสสาวะสีน้ำล้างเนื้อ หรืออุจจาระสีดำ, มีไข้สูง มีอาการเวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง หรือผิวหนังมีสีซีด ซึ่งอาการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน และทำการรักษาต่อไป

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  หวยฮานอยซื้อยังไง

            เชื่อว่าหลายคนกำลังประสบกับปัญหาผมหงอกขึ้นอยู่บนหัวซึ่งมีจำนวนมากทั้งๆที่ตัวเราเองนั้นก็อายุยังไม่ได้มากพอที่จะต้องมีผลหลอกเลยด้วยซ้ำไปซึ่งโดยปกติแล้วคนที่มีอาการผมหงอกนั้นควรจะต้องเริ่มที่อายุ 40 ขึ้นไปแต่บางคนนั้นเพียงแค่อายุ 10 กว่าๆหรือ 20 ต้นๆก็เริ่มมีผมหงอกขึ้นมาแล้วซึ่งการมีผมหงอกนั้นเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเป็นเพราะพันธุกรรมที่มีบรรพบุรุษเป็นคนที่ผมหงอกเร็ว

หรือร่างกายของเรานั้นอาจจะมีปัญหาความผิดปกติของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับเรื่องของภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือแม้แต่กลุ่มคนที่เป็นโรคโลหิตจางโรคเบาหวานรวมถึงโรคไทรอยด์และโรคขาดสารอาหารกลุ่มคนที่เป็นโรคแบบนี้ก็สามารถที่จะส่งผลทำให้ผมหงอกเร็วได้เช่นเดียวกันหรือถ้าหากใครที่เครียดมากๆก็ประสบกับปัญหาผมหงอกเร็วบางครั้งผมของเรานั้นอาจจะมีความเสื่อมสภาพเร็วตามอายุ

หรือก่อนอายุก็ได้อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างที่จะส่งผลให้ผมหงอกได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่เรามีดีการกินยาเป็นประจำซึ่งเวลานั้นมีผลต่อเซลล์ของเส้นผมหรือการที่คนติดบุหรี่ติดเหล้าบางคนอาจจะทำงานหนักจนเกินไปหรือบางคนนั้นใช้ยาสระผมหรือสารเคมีไปทำร้ายเส้นผมก็ทำให้เส้นผมอ่อนแอ

และหงอกได้นั่นเองอย่างไรก็ตามวิธีการแก้ไขปัญหาผมหงอกนั้นต้องมาดูว่าสาเหตุของการเกิดผมหงอกนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไรโดยพิจารณาจากข้อมูลที่ให้ไปเบื้องต้นซึ่งถ้าเกิดเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บนั้นก็อาจจะแก้ไขไม่ได้เพราะเราจะต้องมีการรักษาโรคนั้นให้หายก่อนอาการผมหงอกก็จะหายตามไปด้วยแต่ถ้าเกิดจากเรื่องของกรรมพันธุ์นั้นแก้ไขไม่ได้

วิธีการทำได้ก็คือเป็นการย้อมสีผมที่คนส่วนใหญ่นิยมกันก็คือย้อมสีผมจากสีขาวให้มาเป็นสีดำด้วยยาย้อมผมโดยเน้นยาย้อมผมธรรมชาติหรือบางคนจะปล่อยให้เป็นสีขาวหมดทั้งหัวเลยก็ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือถ้าสมมุติว่าเกิดจากการที่การเสื่อมสภาพจากการที่เราหักโหมในการใช้งานร่างกายไม่ว่าจะเป็นการดื่มแอลกอฮอล์หรือการพักผ่อนน้อยความเครียดต่างๆ

ก็ควรจะแก้ไขจากตรงนี้เพื่อที่สภาพเส้นผมของเราก็จะกลับมาดีขึ้นหากใครก็ตามที่ไม่ได้เป็นโรคภัยไข้เจ็บอะไรเลยและไม่ได้เกิดจากความเครียดต่างๆก็อาจจะเกิดจากการที่เราทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ดูแลสุขภาพตนเองไม่เพียงพอเพราะฉะนั้นหลักๆเราควรจะต้องดูแลตนเองพักผ่อนให้เพียงพอและกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาผมหงอกก่อนวัยอันควรได้เช่นเดียวกัน

สำหรับเคล็ดลับอายุยืนยาวร้อยปีในช่วงสุดท้ายเราจะนำเอามาเฉลยตรงนี้เลยว่าหมอได้แนะนำให้กับคนไข้ทุกคนและกลับมาผลฮอร์โมร์ความเครียดจากที่มีเยอะๆก็ดีขึ้นมาเป็นลำดับและทำให้ประสิทธิภาพในร่างกายความคิดการนอนการถ่านการกินดีขึ้นหมด12ชั่วโมงควรจะทำงานให้นักคิดให้เยอะคิดให้มากทำงานเต็มที่อีก12ชั่วโมงก็คือครึ่งหลังก็คือตัวกลางคืน

ซึ่งมันควรจะเป็นเวลาพักถ้าเรานอนไป8ชั่วโมงเราจะเลือกเวลาพักอีก4ชั่วโมงและ4ชั่วโมงนี้เราควรจะออกกำลังกายสัก1ชั่วโมงหรือครึ่งชั่งโมงนั่งกินข้าวอยู่กับครอบครัวไม่คุยเรื่องงานไม่คุยเรื่องเครียดคุยเรื่องสนุกคุยเรื่องเฮฮาคุยเรื่องจรรโลงที่สร้างสรรค์และขอสิ่งสำคัญ

สำหรับมือใหม่ทางบ้านครึ่งชั่วโมงก่อนนอนมันคือช่วงระยะเวลาในการชะล้างจิตเพราะฉะนั้นในครึ่งชั่วโมงก่อนนอนเราควรจะหลับตาแล้วมันไม่ควรที่จะมีเรื่องอื่นที่จะเข้ามากระทบจิตใจเยอะไม่มีเรื่องที่จะเข้ามาทำให้เราฟุ้งให้คิดไปต่างๆนานาบางครั้งเราหลับตาเพียงแค่นี้ไปถึงอเมริกาเลยเดี๋ยวไปช็อปปิ้งแล้วก็กลับมาไวกระแสอีกนะ

เพราะฉะนั้นแล้วในครึ่งชั่วโมงอย่างหมอเขาได้ทำวันละ1ชั่วโมงก่อนนอนมันคือการล้างสมอง การล้างสมองก็คือถ้าเราหลับตาแล้วเราคิดไปเป็น100เรื่องใน5นาทีเราควรจะมีอะไรที่มันจะเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวการนั่งสมาธิดีสำหรับคนที่ฝึกฝนมาแล้วเพราะไม่มีที่ให้เหนี่ยวและใจจะต้องนิ่ง

สำหรับDeginner หรือยุคเริ่มต้นให้เริ่มต้นจากทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นพุทธคริสต์ อิสลามหลักการคล้านกันคือมีอะไรที่ทำให้เราจดจ่อเสียหน่อยเราจะสวดมนต์บนยากๆทำให้เราไม่คิดไปเรื่องอื่นนี่กับนับได้ว่าดี การเดินจงกรมถ้าเดินไม่ตั้งใจก็จะชนผนังชนเพดานไปชนอะไรไปก็เป็นการฝึกสมาธิดี

ซึ่งถ้าหากว่าเป็นฝรั่งเขาก็ถักโครเชต์ใช้ไหมถักนิตติ้งถักอะไรไปทำให้จิตใจได้จดจ่ออยู่นี่ไม่คิดเรื่องอื่นๆถือว่าเป็นดีจะต่อโมเดลเอารถมานั่งต่อนั่งอยู่อย่างนี้ดีส่องพระดีวาดรูปได้เล่นดนตรีได้ดูหนังฟังเพลงดูละครอ่านหนังสือไม่ได้เพราะจิตมันไปไกลเกิน

นอกจากนี้มันได้เป็นหลักการว่าครึ่งชั่วโมงก่อนนอนทำอย่างไรให้เรารู้สึกสงบแล้วไม่คิดเรื่องอื่นเยอะภาษาการออกกำลังเขาเรียกเราใช้ชีวิตมา1214ชั่วโมงนี่เราจะต้องมีcool down และ cool downคือการให้ร่างกายได้ช้าลงแล้วพอมาถึงจุดนั้นเราจะนอนหลับทั้งกายและใจ

การนอนหลับส่วนใหญ่ของคนปัจจุบันคือกายหลับแต่ใจยังไม่หลับยังฝันเยอะตื่นขึ้นมาหลับตื้นได้ยินเสียงไปเข้าห้องน้ำหลับแล้วไม่ดีตื่นมาไม่สดชื่นเพราะการหลับที่ดีคือการหลับแล้วสนิทการหลับสนิทคือการหลับลึกวันหนึ่งแค่4-5ชั่วโมงหลับลึกจำนวนน้อย

 

สนับสนุนโดย  คาสิโนสด บาคาร่า