อันตรายจาการจามแล้วเอามือปิดปากและจมูกพร้อมๆกัน

   วันที่ 21 เดือนพฤษภาคม พ.ศ .2553 นายแพทย์มนูญซึ่งเป็นนายแพทย์ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องของโรคระบบทางเดินหายใจโดยท่านเป็นนายแพทย์ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธได้ออกมาเผยแพร่เขตหายากผ่านทาง Facebook ของคุณหมอมนูญเกี่ยวกับโรคที่เราอาจจะไม่เคยนึกถึงกันเลยก็คือโรคลมเข้าสมอง

ซึ่งโรคชนิดนี้นั้นเกิดได้ไม่บ่อยมากนัก เรียกได้ว่าไม่ค่อยมีใครเป็นกันเพิ่งลงเข้าสมองนี้พบอาการกับผู้หญิงชาวไทยวัย 85ปีซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วเธอก็เคยมารักษาอาการลมเข้าสมองมาแล้วครั้งหนึ่งจึงเป็นไปในเขตที่หายากมากที่คนคนเดียวแต่มีอาการของโรคลมเข้าสมองถึง 2 ครั้งด้วยกัน

สำหรับผู้ป่วยในเคสนี้นั้นเธอมีอาการอยากจะจามแต่เนื่องจากเธอใช้มือปิดทั้งปากและจมูกพร้อมกันเอาไว้ทำให้ลมไม่สามารถออกทั้งปากและจมูกของเธอได้ดังนั้นด้วยแรงลมที่มีอยู่ในช่องปากของเธอลมจึงผ่านไปทางท่อซึ่งเป็นท่อที่เชื่อมต่อกันระหว่างหูชั้นกลางที่อยู่ทางด้านซ้ายและเชื่อมต่อยาวทะลุไปจนถึงกะโหลกใต้สมองแล้ว

เมื่อเธอตามลมก็วิ่งตามไปยังท่อดังกล่าวจึงเข้าไปอยู่ที่สมองซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันนี้เธอมีอาการทั้งแรงดันของลมที่มันไปทำให้ปอดรั่วและยังส่งผลทำให้แก้วหูของเธอทะลุรวมทั้งบริเวณช่องคอตรงผนังก็ทะลุด้วยและตอนนี้ก็มีอาการเส้นเลือดในสมองแตกซึ่งอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงเพราะแค่ว่าเธอจำแล้วเอามือปิดปากกับจมูกพร้อมกันเท่านั้น

ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างมากดังนั้นคุณหมอมนูญจึงได้นำเคสนี้มาลง Facebook เอาไว้เพื่อให้ประชาชนได้มีการแชร์บอกเล่าเคสนี้ออกไปเจอคุณหมอบอกว่าให้ทำการเสริมใส่หน้ากากอนามัยก็จะช่วยในเรื่องปัญหานี้ได้ไม่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองด้วยการเอามือปิดปากและจมูกตอนที่อยากจะจามซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างมากดังนั้นการสวมใส่หน้ากากอนามัยจึงเป็นสิ่งที่ช่วยทุกคนได้ดีที่สุดอยู่ในขนาดนี้  ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณปี 59 หญิงชราคนนี้ก็เคยมีอาการลมเข้าสมองมาแล้ว

ซึ่งตอนนั้นเธอต้องรอให้อาการดีขึ้นไปเองซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานถึง 50 วันด้วยกันและในครั้งนั้นคุณหมอก็ได้ห้ามเธอว่าห้ามปิดปากปิดจมูกเวลาจามอีกเป็นอันขาดแต่ครั้งนี้เธอกลับไม่เชื่อฟังจึงต้องมารักษาตัวในอาการโรคเดิมอีกครั้งหนึ่งซึ่งตอนนี้มีการรักษาตัวที่โรงพยาบาลประมาณ 4 วันแล้ว และอาการค่อยค่อยดีขึ้นตามลำดับ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  bk8 โบนัส 100