พุพอง ปัจจัยเสี่ยงและการป้องกัน

พุพองเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังที่ติดต่อได้ง่าย มักเกิดในเด็กและทารก แม้ว่าผู้ใหญ่ก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน

พุพอง ปัจจัยเสี่ยง ภาวะนี้อาจทำให้เกิดแผลทั่วร่างกายและแตกออกในที่สุด เช่นเดียวกับตุ่มน้ำและตุ่มสีน้ำผึ้งบนร่างกาย บางคนที่เป็นโรคพุพองยังมีแผลพุพองและแผลพุพองที่ลึกขึ้นซึ่งอาจทำให้เจ็บปวดได้ สิ่งนี้เรียกว่า ecthyma และสามารถเกิดขึ้นได้

เมื่อพุพองไม่ถูกรักษา พุพองไม่เป็นอันตรายในทันทีหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตหากได้รับการรักษา แต่สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่เพื่อน

อาจกลายเป็นปัญหาในโรงเรียนและทีมกีฬาได้ เช่นเดียวกับโรคผิวหนังประเภทอื่น ๆ สามารถป้องกันพุพองและหยุดการแพร่กระจายได้ การป้องกันเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่ผิวหนัง และเข้าใจว่าใครบ้างที่มีความเสี่ยง

อะไรคือสาเหตุส่วนใหญ่ของพุพองพุพองเป็นการติดเชื้อที่ผิวเผินซึ่งมักเกิดจากแบคทีเรียหนึ่งในสองชนิด

ได้แก่ Staphylococcus aureus หรือ Streptococcus pyogenes แบคทีเรีย Strep เป็นแบคทีเรียชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดคออักเสบ ในขณะที่แบคทีเรีย Staph สามารถเป็น MRSA ซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายชนิด 

เพิ่มเติมเกี่ยวกับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคพุพอง สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ Streptococci ประเภทต่างๆ หากคุณมีอาการบาดเจ็บที่ผิวหนัง เช่น รอยบาดหรือถลอก หรือถ้าคุณถูกสัตว์หรือแมลงกัด แบคทีเรียทั้งสองอย่างสามารถบุกรุกผิวหนังของคุณและทำให้เกิดการติดเชื้อ

ที่ชั้นบนสุดของผิวหนังได้ แต่นี่ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะทำให้พุพองได้ เนื่องจากอาการนี้ติดต่อได้ คุณยังติดเชื้อได้หากคุณสัมผัสกับแผลของผู้ที่ติดเชื้อ หรือหากคุณแบ่งปันหรือสัมผัสสิ่งของที่พวกเขาสัมผัส 

  • ผ้าปูที่นอนและผ้าคลุม
  • ผ้าขนหนู
  • รังบวบฟองน้ำ
  • เสื้อผ้า
  • เคาน์เตอร์และพื้นผิวอื่นๆ
  • ลูกบิดประตู

อะไรคือปัจจัยเสี่ยงหลักของพุพองที่คุณควรรู้?

แม้ว่าการสัมผัสสิ่งของและพื้นผิวที่ปนเปื้อนสามารถแพร่กระจายพุพองได้ แต่ปัจจัยบางอย่างยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียนี้ อายุ

พุพองสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัยรวมถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ แต่มักเกิดในเด็กเล็กอายุ 2 ถึง 5 ขวบ ใกล้กับการติดเชื้ออื่น

เนื่องจากการสัมผัสระหว่างผิวหนังกับผิวหนังจะเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายของพุพองไปยังผู้อื่น ภาวะนี้จึงแพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางในสถานที่ที่ผู้คนสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น ซึ่งรวมถึงโรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็ก พุพองยังสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนในที่ทำงานและที่บ้าน อากาศอบอุ่น ชื้น แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคพุพองเจริญเติบโตได้ดีในความชื้นและความอบอุ่น ความเสี่ยงในการเกิดภาวะผิวหนังนี้เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน และมีกรณีพุพองมากขึ้นในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น ในสหรัฐอเมริกา ผู้คนมักจะเกิดภาวะนี้ในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ร่วง (3)

การมีส่วนร่วมในกีฬา การเป็นนักกีฬาไม่ได้ทำให้คุณเป็นโรคพุพองได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าคุณเข้าร่วมในกีฬาที่มีการสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อกับผู้เล่นคนอื่นหรือใช้อุปกรณ์กีฬาร่วมกัน มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังมากขึ้น โปรดทราบว่าคุณจะได้รับพุพองก็ต่อเมื่อคุณมีอาการบาดเจ็บที่ผิวหนังหรือสัมผัสกับบุคคลที่มีอาการดังกล่าว กีฬาที่ทำให้คุณเสี่ยง ได้แก่ ฟุตบอลหรือมวยปล้ำ 

ผิวเสีย ผิวที่แตกยังเป็นช่องทางสำหรับแบคทีเรีย Staph หรือ Strep วิธีป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งคือการดูแลบาดแผลให้ดี ซึ่งรวมถึงการล้างแผล ทาครีมยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ และปิดแผลด้วยผ้าพันแผลหรือผ้าก๊อซและเทปกาวจนกว่าจะหายดี

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88

เคล็ดลับการคุมอาหารกินอิ่มแต่ไม่อ้วน

การลดน้ำหนัก เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนนั้นนิยมทำกันเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าใครก็ตาม คนส่วนใหญ่ก็มักที่จะอยากมีหุ่น หรือไม่รูปร่างที่สวยสุขภาพดี

เคล็ดลับการคุมอาหารกินอิ่มแต่ไม่อ้วน เพราะปัจจุบันนี้ การมีรูปร่างที่สวยสุขภาพดี ถือเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างบุคลิกภาพได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งปกติแล้วการลดน้ำหนัก จะเป็นการที่ร่างกายของเราได้ใช้พลังงาน เพื่อช่วยเผาผลาญแคลอรี แต่การลดน้ำหนักในสมัยปัจจุบันนี้ก็สามารถทำได้ด้วยกันหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของการออกกำลังกาย

การเลือกรับประทานอาหาร รวมไปถึงการควบคุมอาหารอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อการลดน้ำหนักเป็นสิ่งสาว ๆ ส่วนใหญ่ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้ทำให้ตัวเองนั้นดูดีมากขึ้น และเพิ่มความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้า และการใช้ชีวิต อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากลดน้ำหนัก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ชอบการออกกำลังกาย

หรือการใช้พลังงานในร่างกายเยอะ วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับการควบคุมอาหาร กินให้อิ่มแต่ไม่อ้วน เพราะเราเชื่อว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเลือกกินอะไรก็ตามก็มักที่จะมีความกังวลเรื่องของความอ้วน ฉะนั้น วันนี้เรามีวิธีมาบอกค่ะ จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

  • การทานโปรตีนให้มากขึ้น

เนื่องจากโปรตีนมีความสำคัญและจำเป้นต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่รักสุขภาพ หรือคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะอาจำพวกโปรตีนอย่าง เนื้อสัตว์ จะมีไขมันที่น้อยมาก ๆ ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องของการเผาผลาญแคลอรีในร่างกายได้เป็นอย่างดี รับรองได้เลยว่าหากทานเป็นประจำ นอกจากจะได้รับสารอาหารที่ดี ยังช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และไม่ว่าจะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนอย่างแน่นอน 

  • การเลือกทานอาหารที่มีเส้นใยธรรมชาติ

เนื่องจากอาหารประเภทนี้ เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่เราเพิ่มสารอาหารที่ดีให้แก่ร่างกาย จะยิ่งทำให้ร่างกายของเราแข็งมากขึ้น และช่วยให้ร่างกายช่วยเผาผลาญได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เพราะการที่เราเน้นการทานผัก ผลไม้ จะยิ่งช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารที่จำเป็น อีกทั้งยังช่วยให้เรารู้สึกอิ่มได้นานมากขึ้น รับรองได้เลยว่าหากทานอาหารดังกล้าวเป็นประจำ จะยิ่งทำให้การลดน้ำหนักของเราเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  • การเลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน

เนื่องจากสารอาหารประเภทนี้จะเป็นสารอาหารหลักที่สามารถให้พลังงานแก่ร่างกายของเราได้ และมีความจำเป็นต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่อยากควบคุมอาหาร แต่ยังอยากให้ท้องรู้สึกอิ่ม การเพิ่มคาร์โบไฮเดรตเข้าไปในมื้ออาหาร จะช่วยให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   alpha88

3 วิธีเพิ่มพลังให้สมอง

3 วิธีเพิ่มพลังให้สมอง อย่างที่เราทราบกันดีว่า คนส่วนใหญ่ใช้สมองในการทำงาน ซึ่งในแต่ละวันนั้นคนเราจะใช้งานสมองอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของการทำงาน การเรียน การดำเนินชีวิต

รวมไปถึงการทำกิจกรรมอื่น ๆ จนส่งผลให้สมองมีการทำงานในแต่ละวันนั้นหนักเกินไป ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราใช้งานสมองหนักเกินไป อาจส่งผลให้สมองของเรานั้นเกิดความเสียหายขึ้นได้ ดังนั้น สมองถือเป็นอวัยวะทางร่างกายอย่างหนึ่งที่เราควรให้ความสำคัญ และควรดูแลใส่ใจเป็นอย่างดีให้แข็งแรงอยู่เสมอ

เพราะสมองย่อมมีผลต่อความทรงจำ เมื่อไหร่ก็ตามที่สมองของเราถูกทำลาย ก็อาจทำให้เราอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่เกี่ยวกับสมองได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม หากสุขภาพสมองของเรายังคงมีความแข็งแรง ไม่ว่าเราจะอายุเพิ่มมากขึ้นมาก    alpha88     แค่ไหนก็ตาม ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ฉะนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลสมองให้แข็งแรง หรือวิธีการเพิ่มพลังให้กับสมอง ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

ไม่ควรปล่อยละเลยการทานอาหารเช้า อย่างที่เราทราบกันดีว่าอาหารเช้า เป็นมื้อที่สำคัญต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะเป็นมื้อที่จะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายได้ เพื่อใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และราบรื่น รวมไปถึงการกระตุ้นสมองของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เรียกได้ว่าอาหารเช้านั้นเป็นมื้อที่จะช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของเราได้ รับรองได้เลยว่าหากเราทานอาหารเช้าเป็นประจำ นอกจากจะดีต่อสุขภาพ ยังส่งผลดีต่อสมองอีกด้วย 

การเติมไขมันดีให้แก่สมอง เนื่องจากว่าในสมองของเรานั้นประกอบไปด้วยไขมันเป็นส่วนใหญ่ จำเป็นอย่างยิ่งที่เวลาเรารับประทานอาหารควรที่จะระมัดระวังในเรื่องของการทานไขมัน ซึ่งทางที่ดีเราควรจะเลือกทานไขมันดี หรือไขมันที่อิ่มตัว เพราะไขมันดีจะช่วยในการเสริมสร้างสมองของเราให้มีความแข็งแรงได้มากยิ่งขึ้น แต่หากเราเลือกทานไม่ถูกต้องก็อาจส่งผลให้สมองได้รับความเสี่ยงต่อการอักเสบ หรือาจส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความจำเสื่อมได้ ฉะนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง แนะนำให้เพิ่มไขมันดี เพื่อให้ส่งผลดีในระยะยาว 

การเติมสารต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากว่าสารต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถหาได้จากการทานผัก หรือผลไม้จากธรรมชาติ รู้หรือไม่ว่าการที่เราเติมสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย ก็มีส่วนช่วยในการบุงสมองของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองของเราให้ดีขึ้นได้ ทำให้สมองโลกแล่น แถมยังดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย

เมนูแนะนำที่ควรกินตอนหน้าฝน

เมื่อหน้าฝนกำลังจะมาเยือน เพื่อนๆหลายคนคงเตรียมร่มกับเสื้อกันฝนรอกันแล้วใช่ไหมคะ แต่แค่สองอย่างนี้ไม่พอหรอกนะ เราจะต้องเตรียมร่างกายของเราให้แข็งแรงและพร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆด้วย หน้าฝนเป็นหน้าที่อากาศจะชื้นมากเป็นพิเศษ

เพราะฉะนั้นเชื้อโรคต่างๆจะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายของเรานอกจากจะรับมือกับความเย็นแล้ว ก็ต้องคอยปรับสมดุลให้ต่อสู้กับเชื้อโรคได้ด้วย อาหารที่เรากินเข้าไปก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำเมนูอาหารสำหรับหน้าฝนที่ทำได้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก ให้เพื่อนได้ลองเอาไปทำตามกันคะ

1.ต้มจืดซุปไก่ เป็นเมนูที่มีขั้นตอนในการทำถือว่าง่ายมาก และวัตถุดิบที่ใช้ก็มีไม่กี่ชนิด ในน้ำซุปใส่กระเทียม รากผักชี พริกไทย หรือเรียกรวมกันว่า “สามเกลอ” ซึ่งเป็นสมุนไพรที่เรามีติดไว้ในครัวเรือนกันประจำอยู่แล้ว นอกจากความอร่อยและโปรตีนที่ได้รับ ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคหวัด รวมทั้งเสริมสร้างเซลล์ต่างๆให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

2.แกงเลียงผักรวม เป็นเมนูที่นอกจะเราจะได้แร่ธาตุและวิตามินต่างๆจากสารพัดผักที่ใส่ลงไปแล้ว ในน้ำแกงเลียงที่มีรสชาติเผ็ดร้อนเราได้ใส่เครื่องปรุงที่มีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพรหลากหลายชนิด ทั้งหอมแดง, พริกไทย, พริกแห้ง, ใบแมงลัก ซึ่งมีสรรพคุณทางยาช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แก้วิงเวียนคลื่นไส้ และบรรเทาอาการเป็นหวัดให้หายเร็วขึ้น

3.ผัดผักบุ้งไฟแดง ผักบุ้งเป็นผักพื้นบ้านที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนต้นผักบุ้งได้น้ำฝนก็จะเติบโตได้เร็ว เราเอามาผัดใส่กระเทียมกับพริกช่วยเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้น่ารับประทาน คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่ากินผักบุ้งเยอะๆจะทำให้สายตาดี แท้จริงแล้วผักบุ้งให้ประโยชน์กับร่างกายหลายอย่างเพราะมีวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการปวดหัว บำรุงโลหิต และช่วยให้ขับถ่ายคล่องเนื่องจากมีกากใยสูง

4.ผัดยอดฟักแม้ว   ยอดฟักแม้วถือเป็นผักยอดนิยมในหน้าฝน ปลูกกันมากในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีรสชาติกรอบหวาน เป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยชะลอความแก่ให้เราดูเด็กขึ้น และมีสรรพคุณทางยาช่วยชะลอการแข็งตัวของหลอดเลือด ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการลดความอ้วนเพราะให้แคลอรีต่ำ ก่อนจะนำมาทำอาหารเราควรล้างยอดของฟักแม้วก่อนที่จะนำมาเด็ด เพื่อรักษาวิตามินให้คงอยู่เหลือมากที่สุด 

นอกจากเรื่องของอาหารการกินแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอยู่เสมอ ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8 แก้ว เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่เจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆได้ง่ายคะ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  alpha88