อาหารตามกรุ๊ปเลือด

โดยปกติตามวิถีการใช้ชีวิตของคนเรายุคปัจจุบันนี้แล้วนั้นเป็นการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบการใช้ชีวิตแข่งกบเวลา ทำให้คนเราในยุคนี้มักเจ็บไข้ได้ป่วยกันง่ายมาก เหตุผลอาจจะมาจากสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหรืออาจจะปัจจัยอื่นๆอีกหลากหลาย แต่แน่นอนว่าเรื่องอาหารและการรับประทานอาหารนั้นถือว่ามีส่วนสำคัญในเรื่องของสุขภาพ หากเราทานอาหารที่ดีแน่นอนว่าร่างกายได้รับสิ่งที่ดีก็จะทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรง และมีภูมิต้านทานที่ดีไม่เจ็บป่วยง่าย

การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้น แต่ละกรุ๊ปเลือดก็จะมีการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันไปแต่ละประเภท เพื่อให้เกิดความสมดุลและเหมาะสมของแต่ละกรุ๊ปเลือดนั่นเอง โดยปกติแล้วร่างกายมนุษย์ควรบริโภคอาหารในแต่ละมื้อให้ครบ 5 หมู่อยู่แล้ว การทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดก็เช่นกันควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อ โดยกรุ๊ปเลือดจะแบ่งออกเป็น 4 กรุ๊ป คือ A,B,O และ AB บางคนก็มีข้อสงสัยว่าการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้นจำเป็นด้วยหรือ โดยการรับประทนอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้นก็เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ตนเองและสามารถรักษาอาการภูมิแพ้ได้ นอกจากนั้นการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดยังช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักอีกด้วย

การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้นควรรับประทานอาหารที่เหมาะสมแก่ร่างกายและเหมาะสมตามภูมิอากาศด้วยและสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศอีกด้วยจึงจะเหมาะสมและได้ผลดีที่สุด

โดยแต่ละกรุ๊ปเลือดนั้นการทานเนื้อสัตว์ถือเป็นอาหารหลักเพราะเนื้อสัตว์ให้ทั้งโปรตีนและไขมัน เนื้อสัตว์จึงจำเป็นกับทุกกรุ๊ปเลือด โดยกรุ๊ปที่มีความเป็นกรดสูงจึงต้องทานเนื้อสัตย์ในปริมาณที่มาก โดยกรุ๊ปเลือดที่ควรทานเนื้อสัตว์มากที่สุดคือ กรุ๊ป O,B,AB และ B ตามลำดับ และกรุ๊ปเลือดที่มีความเป็นกรดต่ำ จึงต้องทานอาหารประเภทผักในปริมาณที่มาก จึงจำเป็นที่จะต้องทนผักเพื่อรักษาสมดุลในร่างกายนั่นเอง คือกรุ๊ปเลือด A,O,AB และ B

กรุ๊ปเลือด O เป็นกรุ๊ปที่มีการดูดซึมสารอาหารได้ดี ควรรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์เยอะๆ เพราะย่อยง่าย และรับประทานผักในปริมาณที่พอดีด้วย และหากต้องการลดน้ำหนักควรเลี่ยงอาหารประเภท แป้ง น้ำตาล ด้วย

กรุ๊ปเลือด A  ควรเน้นการรับประทานอาหารประเภทมังสวิรัติเป็นหลัก ผัก และรบประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่น้อย เพราะกรุ๊ปเลือด A จะมีกรดในกระเพราะค่อนข้างสูง หารับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ในปริมาณที่มากนั้น จะทำให้เลือดมีการหมุนเวียนที่ไม่ดี อาจทำให้เกิดโรคหัวใจได้ และเน้นการออกกำลังกายเบาๆ ไม่หนักเพื่อควบคู่การกินอาหารด้วย

กรุ๊ปเลือด B เน้นการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผักในปริมาณเท่าๆกัน เพราะคนกรุ๊ปเลือดนี้ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นทางด้านร่างกายสูง แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป แต่ปัญหาขอคนกรุ๊ป B คืออาจมีอาหารอ้วนง่าย หากไม่ได้รับการควบคุมอาหารที่ดี

กรุ๊ปเลือด AB เป็นกรุ๊ปเลือดตรงกลางระหว่างกรุ๊ป Aและกรุ๊ปB ทำให้การรับประทานอาหารจะคล้ายกัน แต่สิ่งที่ไม่ควรรับประทานคือพวกของหมักดอง เพราะคนกรุ๊ปนี้จะมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ จจะมีปัญหาระบบภมิคุ้มกันด้วย ต้องระวังเป็นพิเศษ

การกินอาหารนั้นไม่ว่าจะกรุ๊ปเลือดไหนๆแล้วนั้น การออกกำลังกายก็ควรควบคู่ตามมาด้วย จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิต้านทานที่ดี

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  betbb

วิธีใช้เครื่องดูดฝุ่นอย่างไรให้คุ้ม

ประเทศไทยของเราถือได้ว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างมีฝุ่นละอองเยอะ โดยมันจะปกคลุมไปทั่วทุกประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับฝุ่นละอองที่ลอยตัวและปกคลุมไปทั่วประเทศ ซึ่งมันเป็นอันตรายกับระบบของเราโดยตรง ในการหายใจ ดังนั้นฝุ่นเหล่านี้จะพากันมาเกาะติดกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ภายในบ้านหรือรอบตัวเรา

ดังนั้นเราควรที่จะทำความสะอาดอยู่บ่อยครั้ง เพื่อร่างกายและระบบหายใจของเราเอง และการใช้เครื่องดูดฝุ่นกับสิ่งเหล่านี้จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งวันนี้เราจะมาดูวิธีการใช้เครื่องดูดฝุ่นให้ถูกวิธีเพื่อความสะอาดที่ปลอดภัยต่อร่างกายของเราและคนรอบข้าง และยังเป็นการรักษาเครื่องดูดฝุ่นให้ถูกวิธีอีกด้วย

วิธีการใช้เครื่องดูดฝุ่น

สำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่นั้น มันเป็นการกักเก็บฝุ่นได้ค่อนข้างดีกว่าแบบอื่นๆ เพราะมันจะมีพื้นที่ในการดูดค่อนข้างมากกว่า แถมมันยังเป็นการลดสารที่เกิดจากการก่อภูมิแพ้ได้อีก แต่สำหรับบุคคลที่ไม่ได้มีพื้นที่ขนาดกว้าง อย่างเช่นอยู่อาศัยที่คอนโด เราขอแนะนำว่าท่านควรที่จะใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีลักษณะตั้ง โดยทรงแบบนี้มันจะมีถุงที่เก็บฝุ่นละอองอยู่ทางด้านบน เพราะมันเหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่ที่ไม่ได้มีความกว้างนั่นเอง

แต่สำหรับบ้านใครที่มีการปูพรมเอาไว้บริเวณตรงบันไดบ้านของตนนั้น และจะใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อเป็นการช่วยในเรื่องของการทำความสะอาด หรืออาจจะนำไปใช้สำหรับพื้นที่ที่ค่อนข้างแคบเช่นการดูฝุ่นภายในรถยนต์ ควรที่จะใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบพกพาน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะว่ามันสะดวกและค่องแค่ว สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

และนอกจากนั้นคุณควรที่จะหมั่นเทฝุ่นออกเพื่อเป็นการทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่นของคุณเพื่อให้มันใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากปล่อยให้ฝุ่นเต็มถุงการทำงานของมันจะไม่ดีอย่างที่ควร สิ่งที่เหมาะสมคือควรปล่อยให้ฝุ่นละอองอยู่เพียงแค่ครึ่งถุงเพียงเท่านั้นถึงจะเหมาะสมกับการใช้งาน และจะสามารถใช้งานเครื่องดูดฝุ่นได้ยาวนานตามอายุของการทำงานของมันอย่างแน่นอน

การดูดฝุ่นนั้นถ้าอยากให้สะอาดคุณควรที่จะเลิกดูดฝุ่นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะว่ามันจะไม่สามารถที่จะดูดฝุ่นละอองได้หมด โดยเฉพาะฝุ่นที่มีการซ่อนตัวอยู่ในมุม หรือที่เกาะตัวแน่น ดังนั้นหากต้องการให้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นละอองหมดจริงจะต้องทำการดูดแบบย้ำๆ และดูดแบบกลับไปกลับมา จะเป็นการช่วยให้บริเวณเหล่านั้นสะอาดขึ้นได้จริง

และนอกจากนั้นหากจะต้องเน้นจุดที่มันลึกและเข้าถึงได้ยาก ท่านจะต้องใช้หัวทีเป็นการดูดแบบเฉพาะจุดให้เหมาะสม ถึงจะสะอาด และเป็นการใช้งานมันอย่างถูกวิธี

อาหารช่วยอาการท้องผูกได้

อาการท้องผูกนั้นโดยส่วนมากมักจะเกิดจากการรับประทานอาหารที่ย่อยยาก และรับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารน้อย จึงทำให้ระบบย่อยอาหารนั้นทำงานหนัก และในบางครั้งก็เกิดจากการขับถ่ายที่ไม่เป็นเวลาได้เช่นกัน และอาการท้องผูกนั้นนอกจากจะทำให้เกิดความอึดอัด ไม่สบายตัวแล้ว ยังส่งผลอื่น ๆตามมาต่อสุขภาพร่างกายอีกมากมาย หากร่างกายของเรามีระบบการขับถ่ายที่ไม่ดี ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยทำให้อาการท้องผูกนั้นลดลงได้ จึงเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก

ข้าวกล้อง เปลี่ยนจากการรับประทานข้าวในแบบปกติที่รับประทานอยู่เป็นประจำ มาเลือกรับประทานข้าวกล้องจะทำให้ระบบการขับถ่ายของเรานั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะในข้าวกล้องนั้นมีกากใยอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก หากเรามีการรับประทานเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น สามารถช่วยลดอาการท้องผูกได้อย่างแน่นอน

นมเปรี้ยว ในนมเปรี้ยวนั้นมีจุลินทรีย์อยู่เป็นจำนวนมาก และจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยวนั้นสามารถช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของเรานั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากรับประทานเป็นประจำวันละ 1 กล่อง แต่ไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป เพราะในนมเปรี้ยวมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่มากอาจทำให้มีไขมันที่สะสมมากเกินไป การรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจึงจะส่งผลดีต่อร่างกาย

ผักบุ้ง นอกจากผักบุ้งจะมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาแล้วนั้น ผักบุ้งยังมีเส้นใยอาหารอยู่มาก การรับประทานผักบุ้งจะช่วยทำให้อาการท้องผูกสามารถลดลงได้ โดยอาจนำมาประกอบอาหารเมนูต่าง ๆเพื่อการรับประทานที่ง่ายขึ้น เช่น ผัดผังบุ้ง ยำผักบุ้ง แกงเทโพ เป็นต้น

กล้วย การรับประทานกล้วยสุกเป็นประจำทุกวัน วันละ 1 ลูก จะส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายเป็นอย่างมาก หากผู้ที่มีอาการท้องผูกก็จะสามารถช่วยให้อาการท้องผูกดีขึ้นได้ และการรับประทานกล้วยสุกเป็นประจำทุกวันยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายในหลาย ๆด้านอีกด้วย แต่ไม่ควรที่จะรับประทานกล้วยที่ยังดิบอยู่เพราะจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อขึ้นได้

น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น หากในผู้ที่มีอาการท้องผูกมาก และไม่อยากรับประทานยาระบายในการรักษา นำมะนาว 2-3 ลูก มาคั้นเอาแต่น้ำออก แล้วผสมกับน้ำอุ่นเล็กน้อย ดื่มหลังจากตื่นนอน จะช่วยทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้น ทำเป็นประจำทุกวันจนกว่าอาการท้องผูกจะดีขึ้น แล้วให้หยุดรับประทาน 

แอปเปิล ผลไม้มากประโยชน์อย่างแอปเปิล สามารถช่วยรักษาอาการท้องผูกได้ การรับประทานวันละ 1 ลูก ก็จะสามารถช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย หรือหากผู้ที่ชื่นชอบก็สามารถรับประทานได้ตามความต้องการตลอดทั้งวัน เพราะเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย นอกจากจะส่งผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย

นอกจากการเลือกรับประทานอาหารเพื่อช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายแล้ว ก็ควรที่จะฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องผูกขึ้นอีก หากร่างกายมีระบบขับถ่ายที่ดีแล้ว สุขภาพก็จะดีตามมาด้วย

เมนูแนะนำที่ควรกินตอนหน้าฝน

เมื่อหน้าฝนกำลังจะมาเยือน เพื่อนๆหลายคนคงเตรียมร่มกับเสื้อกันฝนรอกันแล้วใช่ไหมคะ แต่แค่สองอย่างนี้ไม่พอหรอกนะ เราจะต้องเตรียมร่างกายของเราให้แข็งแรงและพร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆด้วย หน้าฝนเป็นหน้าที่อากาศจะชื้นมากเป็นพิเศษ

เพราะฉะนั้นเชื้อโรคต่างๆจะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายของเรานอกจากจะรับมือกับความเย็นแล้ว ก็ต้องคอยปรับสมดุลให้ต่อสู้กับเชื้อโรคได้ด้วย อาหารที่เรากินเข้าไปก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำเมนูอาหารสำหรับหน้าฝนที่ทำได้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก ให้เพื่อนได้ลองเอาไปทำตามกันคะ

1.ต้มจืดซุปไก่ เป็นเมนูที่มีขั้นตอนในการทำถือว่าง่ายมาก และวัตถุดิบที่ใช้ก็มีไม่กี่ชนิด ในน้ำซุปใส่กระเทียม รากผักชี พริกไทย หรือเรียกรวมกันว่า “สามเกลอ” ซึ่งเป็นสมุนไพรที่เรามีติดไว้ในครัวเรือนกันประจำอยู่แล้ว นอกจากความอร่อยและโปรตีนที่ได้รับ ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคหวัด รวมทั้งเสริมสร้างเซลล์ต่างๆให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

2.แกงเลียงผักรวม เป็นเมนูที่นอกจะเราจะได้แร่ธาตุและวิตามินต่างๆจากสารพัดผักที่ใส่ลงไปแล้ว ในน้ำแกงเลียงที่มีรสชาติเผ็ดร้อนเราได้ใส่เครื่องปรุงที่มีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพรหลากหลายชนิด ทั้งหอมแดง, พริกไทย, พริกแห้ง, ใบแมงลัก ซึ่งมีสรรพคุณทางยาช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แก้วิงเวียนคลื่นไส้ และบรรเทาอาการเป็นหวัดให้หายเร็วขึ้น

3.ผัดผักบุ้งไฟแดง ผักบุ้งเป็นผักพื้นบ้านที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนต้นผักบุ้งได้น้ำฝนก็จะเติบโตได้เร็ว เราเอามาผัดใส่กระเทียมกับพริกช่วยเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้น่ารับประทาน คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่ากินผักบุ้งเยอะๆจะทำให้สายตาดี แท้จริงแล้วผักบุ้งให้ประโยชน์กับร่างกายหลายอย่างเพราะมีวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการปวดหัว บำรุงโลหิต และช่วยให้ขับถ่ายคล่องเนื่องจากมีกากใยสูง

4.ผัดยอดฟักแม้ว   ยอดฟักแม้วถือเป็นผักยอดนิยมในหน้าฝน ปลูกกันมากในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีรสชาติกรอบหวาน เป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยชะลอความแก่ให้เราดูเด็กขึ้น และมีสรรพคุณทางยาช่วยชะลอการแข็งตัวของหลอดเลือด ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการลดความอ้วนเพราะให้แคลอรีต่ำ ก่อนจะนำมาทำอาหารเราควรล้างยอดของฟักแม้วก่อนที่จะนำมาเด็ด เพื่อรักษาวิตามินให้คงอยู่เหลือมากที่สุด 

นอกจากเรื่องของอาหารการกินแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอยู่เสมอ ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8 แก้ว เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่เจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆได้ง่ายคะ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  alpha88

การบริโภคสิ่งนี้สามารถล้างสารพิษออกจากร่างกายของคุณได้

ในยุคปัจจุบันที่เราต้องเจอมลภาวะหรือมลพิษต่างๆเชื่อได้ว่ามันก่อให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีภายในร่างกายของเราขึ้นมาได้เรื่องมลพิษเรานั้นสามารถไปทำร้ายร่างกายของเราให้มันค่อนข้างที่จะแย่ลงได้หรือทำให้อายุของเราสั้นลงได้ด้วยนะ เพราะว่ารอบๆตัวเรามีแต่มลพิษหรือฝุ่นที่เป็นอันตรายแก่ร่างกายของเราดังนั้นการที่เราใช้ชีวิตประจำวันมลพิษเหล่านั้นก็จะเข้าสู่ร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี

เมื่อเราเจอสภาวะแบบนั้นทุกๆวันมันก็จะเข้าไปสะสมภายในร่างกายของเราทำให้มันมีปริมาณมากขึ้นและทำร้ายร่างกายของเราได้ในที่สุด ซึ่งทางแก้ไขมันก็มีค่อนข้างที่จะมากมายไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรงการตรวจเช็คร่างกายประจำปีหรือแม้แต่การกินอาหารเพื่อที่จะขับสารพิษจากต่างเหล่านั้นที่เอาไปจากร่างกายของเรา

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถทานแล้วค่ะจัดทริปต่างๆภายในที่อยู่ภายในร่างกายของเราออกไปได้แต่บางคนนั้นมักจะไม่ค่อยให้ความใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องของการกินมากเท่าไหร่จึงไม่รู้เกี่ยวกับวิธีเหล่านี้ซึ่งบางคนอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องไปวิ่งออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเพียงแค่กินก็จะทำให้คุณแข็งแรงได้และขับสารพิษออกจากร่างกายของคุณได้อย่างง่ายดาย

เราควรกินอะไรเพื่อจะขับสารพิษออกจากร่างกายของเราไปได้โดยมีดังต่อไปนี้

หอมหัวใหญ่

หอมหัวใหญ่นี่หาซื้อได้ไม่ยากและว่าคนส่วนใหญ่มักจะนิยมทานกันอยู่แล้วแต่คุณรู้ไหมว่าการทานหอมหัวใหญ่น้ำมันยังช่วยในการขับสารพิษต่างๆให้ออกจากร่างกายของเราได้ด้วย เพราะว่าในหัวหอมนั้นมันจะมีสารที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์เควอเซทินซึ่งเจ้า 3 ตัวนี้มาสามารถเข้าไปปรับระบบภายในร่างกายของเราได้แล้วมันจะส่งผลทำให้ผิวของเราดูเป็นตังค์ขึ้นอีกด้วยนะ และนอกจากนั้นยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายของเราได้อีกด้วย

มะนาว

ประโยชน์ของมะนาวมีมากมายหลากหลายโดยเฉพาะการนำไปทำประกอบการประกอบอาหารซึ่งทำให้รสชาติของอาหารค่อนข้างที่จะอร่อยขึ้นเพราะมีมะนาวเป็นส่วนผสมด้วยแหละบางอย่างบางสิ่งของมะนาวนั้นช่วยในเรื่องของ การล้างสารพิษได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าหากว่าคุณได้นำมะนาวไปผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มแล้วแล้วก็ มันจะเป็นการเข้าไปช่วยทำให้เลือดของคุณสะอาดขึ้นนะ

หรือหากทานมะนาวกับพวกโยเกิร์ต หรือน้ำผึ้งก็ตาม มันจะเป็นการเข้าไปช่วยการล้างสารพิษในลำไส้ของคุณทำให้คุณขับถ่ายได้ดีมากยิ่งขึ้นสรรพคุณต่างๆของมะนาวยังมีอีกมากนอกจากการประกอบอาหารหรือการทานเพื่อขับถ่ายแล้วมะนาวยังช่วยในการเพิ่มวิตามินซีให้แก่ตัวคุณได้ด้วย

 

สนับสนุนโดย  9luck

วิธีกินอย่างไรให้สุขภาพดี

สำหรับทุกคนในช่วงนี้คงมองไปหรืออาจจะเน้นไปในเรื่องทองทางด้านสุขภาพเพราะว่าสุขภาพล้วนแล้วเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเงินเท่านั้นที่สำคัญเพราะว่าสิ่งสำคัญล้วนแล้วสำคัญกับเรามากที่สุดก็คือสุขภาพของเรานั่นเองเพราะว่าถ้าหากคุณมีเงินหรือหักโหมในการทำงานมากจนเกินไปในวันนึงคุณก็อาจจะต้องนำเงินเหล่านั้นมาดูแลสุขภาพของคุณอีกเช่นกัน

ดังนั้นการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงไหนก็ตามถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดและสิ่งที่สำคัญรองลงมานั้นก็คือคุณจะต้องดูแลว่าไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือจะกินมันก็ล้วนแล้วแต่สำคัญวันนี้เราจะมาดูกันว่ากินอย่างไรให้สุขภาพของเราดีโดยมีดังต่อไปนี้

การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่

ได้นอนแล้วว่าใครต่อใครต่างก็รู้ว่าการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะว่าหลักการนี้ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กแต่ว่าจะมีใครที่จะเข้ามาดูแลการกินของเราอย่างจริงจังถึงแม้ว่าเราจะได้เรียนมาก็จริงแต่ว่าอันที่จริงแล้วเราก็ไม่ได้ปฏิบัติอย่างนั้นเลยด้วยความการใช้ชีวิตเร่งรีบจึงทำให้การกินไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังหรือตั้งเป้าเอาไว้

หลายคนอาจจะมองว่าการทำให้อาหารครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อถือได้ว่าค่อนข้างที่จะยากดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะหามากินให้ได้ภายใน 1 วันแต่คุณรู้หรือไม่ว่าการที่คุณไม่กินเลยหรือปล่อยปลาร้าเลยกินแต่อาหารอาหารจานด่วนเท่ากับว่ามันทำร้ายสุขภาพของคุณไปในตัวอีกด้วยนะ

ดังนั้นหากไม่มีเวลาหรือมีเวลาน้อยก็ควรเลือกให้มันใกล้เคียงมากที่สุดหรืออาจจะให้มันได้หมดหมู่เยอะมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เพียงพอแล้วแต่ไม่ใช่ว่าไม่บำรุงอะไรเลยหรือปล่อยปละละเลยในสิ่งที่เราร่างกายเราต้องการเพราะนั่นเป็นสิ่งไม่ดีแน่และมันจะไม่ดีส่งผลให้คุณในอนาคตอย่างแน่นอน

ควรกินข้าวให้เป็นอาหารหลัก

หลายคนมองว่าการกินข้าวทำให้เราอ้วนแต่อันที่จริงแล้วการกินข้าวนะทำให้คุณอิ่มท้องและอยู่ท้องมากที่สุดร่างกายของคุณต้องการอาหารและอาหารเหล่านั้นหนึ่งในนั้นก็คือข้าวซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่คุณจะต้องทานเข้าไปเพื่อทำให้ร่างกายของคุณทำงานได้อย่างปกติโดยถ้าเกิดคุณขาดคาร์โบไฮเดรตแล้วร่างกายของคุณก็จะหมดเรี่ยวแรงทำให้อาจจะเป็นผลอื่นๆตามมาก็เป็นได้

อันที่จริงไม่จำเป็นต้องเข้าก็ได้แต่อะไรที่มันเป็นเกี่ยวกับแป้งเช่นเส้นก๋วยเตี๋ยวขนมจีนขนมปังหรืออะไรก็ได้ที่มันสามารถทดแทนกันได้ก็สามารถใช้ได้ด้วยกันเพราะร่างกายของคุณจำเป็นที่จะต้องใช้มันจริงๆถ้าหากคุณไม่ให้ความสำคัญกับตรงนี้ทางระบบภายในร่างกายของคุณอาจจะรวนได้นะ

กินผักและผลไม้เป็นประจำ

หลายคนมองว่าผักผลไม้มันค่อนข้างที่จะกินยากอันที่จริงแล้วทุกคนมองว่าผักมันกินยากแต่ผักบางชนิดมันก็ไม่มีรสชาตินะเพียงแค่มันขึ้นชื่อว่าผักทุกคนก็จะมองว่ามันไม่น่ากินแต่ผักบางชนิดก็มีรสชาติที่หวานบ้างรสชาติก็มันฉะนั้นคุณควรหัดที่จะลองทานผักดูเผื่ออะไรอะไรมันจะดีกว่าที่คุณคิดก็เป็นได้

 

สนับสนุนโดย  rb88 สล็อต

อาหารเค็ม… เต็มไปด้วยโรค

ข้าวนอกบ้านหรืออาหารสำเร็จรูปแช่แข็งที่ขายตามร้านสะดวกซื้อ ง่ายต่อการรับประทาน เดินเข้าร้านก็สามารถเลือกหามากินได้อย่างรวดเร็ว ราคาก็พอรับได้ อร่อยลิ้นรสชาติถึงใจ แต่รู้หรือไม่ อาหารเหล่านี้มีปริมาณโซเดียมสูงจนเกินเกณฑ์มาตรฐานที่ควรรับประทานในแต่ละวัน

อาหารอะไรบ้างที่มีความเค็ม

ส่วนใหญ่โซเดียมจะเป็นส่วนประกอบหลักของเครื่องปรุงรสเช่น น้ำปลา ผงชูรส ซีอิ้วขาว เป็นต้นซึ่งแน่นอนว่า อาหารทุกชนิดต้องมี เช่น ก๋วยเตี๋ยวที่ขายตามร้านค้า ในน้ำซุบจะมีการใส่เครื่องปรุงรสเหล่านี้เข้าไปในปริมาณมากอยู่แล้ว แถมพอก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟพร้อมที่โต๊ะ ยังปรุงรส เติมน้ำปลา ใส่ซีอิ้ว และบางที่มีผงชูรสไว้ให้เติมในอาหารด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เพิ่มโซเดียมให้มากจนน่าตกใจ

ถ้าเราลดเค็มในอาหารลงได้เราจะลดได้อะไรอีก

สิ่งแรกเลยที่เราสามารถลดได้แน่นอนเมื่อเราเลิกกินเค็มคือ ลดเกลือ ลดโซเดียม และยังคงลดโอกาสเกิดโรคต่างๆเช่น ลดโรคความดันโลหิตสูง ลดโอกาสการเกิดโรคไต ได้ด้วย จากข้อมูลพบว่า คนไทยบริโภคเครื่องปรุงรสที่มีปริมาณโซเดียมสูงถึง 8100 มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน แต่ปริมาณโซเดียมที่ควรบริโภคคือ 2,000 มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน

ถ้าสามารถลดเค็ม ลดเกลือลงได้ประมาณ 5-10 กรัมต่อวัน จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองร้อยละ 17 และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจร้อยละ 23

ถ้าเราสามารถลดกินเกลือ ลดเค็มลงให้เหลือน้อยกว่าวันละ 6 กรัมต่อวันจะช่วยให้สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้อยู่ในระดับปกติ

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หากมีการบริโภคดกลือ ลดเค็มให้น้อยลงจะส่งผลให้การทำงานของฮอร์โมนอินซูลินดียิ่งขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลดลงได้อีกด้วย

ถ้าอยากลดเค็มต้องเริ่มอย่างไรดี

เริ่มต้นที่ปากเราก่อนเลย พยายามปรับรสชาติอาหารที่รับประทานให้อ่อนเค็มลง ปรุงอาหารแต่ละทีต้องคำนึงเสมอว่า “เกลือเยอะเกินไปหรือเปล่า เค็มเกินไปหรือไม่” ลดการรับประทานอาหารนอกบ้านหรือกินอาหารแช่แข็งให้น้อยลงเพราะในอาหารเหล่านี้มีปริมาณโซเดียมสูงมากจนน่าตกใจ กินได้นานๆครั้งแต่ถ้ากินเป็นประจำอันนี้ก็น่าห่วงอยู่นะ

อาหารเค็ม เต็มไปด้วยโรคต่างๆมากมายที่จะคอยมารุมเร้าเราอยู่ตลอดเวลา การลดเค็มเป็นวิธีที่ดีที่สุด เลือกอาหารที่เรารับประทานสักนิดอย่าตามใจปากมากจนเกินไป สุขภาพเราเป็นเรื่องที่สำคัญ ลดเกลือสักนิด ไตของเราจะได้อยู่กับเราไปอีกนาน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  โปรโมชั่น alpha88

ถ้าลูกเป็นไข้ควรเลือกยาแบบไหนให้ลูกทาน

จะเห็นได้ว่าเด็กนั้นมักจะมีปัญหามากในการทานยา ซึ่งถ้าหากว่าบ้านไหนมีเด็กย่อมเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่แล้ว ถ้าหากว่าเด็กคนไหนที่ทานยาง่ายๆนับได้ว่าเป็นความโชคดีของบ้านนั้นเลยแหละ ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบและได้ยินมานั้นจะไม่ค่อยมีบ้านไหนที่ยอมทานแบบง่ายโดยดีเลยนะ ส่วนใหญ่แล้วจะมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น

ดังนั้นผู้ปกครองจึงจำเป็นที่จะต้องงัดไม้เด็ดมาเพื่อเอาไว้ใช้กับเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็น การแอบใส่ยาไปในอาหาร หรือการผสมกับน้ำหวานๆ แต่ว่าเด็กๆก็มักจะรู้ทันตลอด ในบางรายถึงกับบ้วนทิ้งในทันทีเลยนะ ซึ่งเท่ากับว่าเด็กๆก็จะไม่ได้รับยาไปเท่าที่ร่างกายต้องการ ดังนั้นจึงทำให้หายช้าลงขึ้นไปอีก

ซึ่งในวันนี้เรามีเคล็ดลับวิธีการป้อนยาและให้ยากับลูกของคุณอย่างไร ให้ลูกของคุณนั้นกลับมาแข็งแรงได้ไวขึ้น โดยมีดังต่อไปนี้

สำหรับยาน้ำที่จะนำมาให้เด็กๆทานนั้นมันมีอยู่สองชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ ยาน้ำแบบแขวนตะกอนและ ยาแบบน้ำเชื่อมใส โดยทั้งสองชนิดนี้จะมีความแตกต่างกัน แต่ถ้าหากให้เราแนะนำต้องบอกว่าควรที่จะเลือกให้ลูกของคุณเป็นแบบน้ำเชื่อมใสน่าจะเหมาะสมกว่านะคะ

เนื่องจากว่าแบบน้ำเชื่อมใสนั้นตัวยาของมันจะทำการผสมกันมาเรียบร้อยแล้ว และมันไม่ตกตะกอนอีกด้วย ซึ่งหากเวลาที่คุณพ่อคุณแม่จะทำการป้อนยานั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาเขย่าขวดก่อน ซึ่งลูกของคุณก็จะได้รับยาแบบครบถ้วนอีกด้วยนะ

และถ้าหากว่าเป็นยาแบบแขวนตะกอนนั้น เวลาที่คุณเขย่า หากเขย่าไม่ดีหรือไม่เข้ากัน เขาจะได้รับปริมาณของยาที่ไม่เท่ากันถ้าหากป้อนยาเหล่านั้นไป นอกจากนั้นควรเลือกซื้อยาที่มีสีสันสดใส และมีรสชาติที่หวาน เพราะเด็กๆจะได้ทานง่ายขึ้น

เพราะหากมีสีสันที่สดใส มันจะทำให้หลอกล่อลูกหลานของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ถ้าลักษณะของยาที่เป็นสีใสๆเด็กมักจะมองว่าไม่น่าทาน เปลียนเสมอกับน้ำผลไม้หรือน้ำอักลมหากมีสีสันแล้วละก็มันจะเป็นแรงจูงใจให้เด็กๆเป็นอย่างดี

สำหรับการเลือกซื้อยาก็แบ่งเป็นหลายอย่างด้วยกัน เพราะนอกจากสีสัน รสชาติแล้ว ลักษณะของขวดก็ต่างกันไปอีกด้วย เพราะมันมีทั้งขวดที่เป็นแบบใส และเป็นขวดที่มีสีชา และนอกจากนั้นวัตถุประสงค์ในการเก็บยาเหล่านั้นก็ต่างกันออกไป

นอกจากนั้นการเก็บรักษาก็ยังสำคัญอีกด้วยนะ ถ้าไม่อยากให้ยาหมดประสิทธิภาพก็ไม่ควรที่จะวางให้โดนแสงแดด เพราะยาบางชนิดโดนแสงแดดก็จะทำให้เสื่อมคุณภาพได้

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  betbbthai

รักษาอาการไอด้วยสมุนไพรใกล้ตัว

ในปัจจุบันนั้นมียาแผนปัจจุบันออกมาอย่างมากมายที่สามารถรักษา และบรรเทาอาการไอได้ แต่ด้วยผลข้างเคียงของยาแผนปัจจุบันนั้นมักจะมีผลข้างเคียงในภายหลังเกิดขึ้นหากมีการรับประทานเป็นเวลานานหรือบ่อยครั้งกับตับ และไต หากผู้ที่มีอาการไอบ่อย ๆเนื่องจากสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงหรืออากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยจนร่างกายของเรานั้นปรับตัวตามไม่ทัน

การเลือกรับประทานสมุนไพรเพื่อช่วยในการบรรเทาอาการไอจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะมีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย และยังปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย เพราะเป็นสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติ จึงไม่มีผลข้างเคียงใด ๆกับสุขภาพร่างกายอย่างแน่นอน

มะนาว เป็นสมุนไพรคู่บ้านของใครหลาย ๆคน เพราะนอกจากจะนำมาเป็นสมุนไพรแล้ว ยังนิยมนำมาใช้ในการปรุงรสในการประกอบอาหารอีกด้วย ทั้งนี้หากนำมาเป็นสมุนไพรในการบรรเทาอาการไอแล้วก็ได้ผลเป็นอย่างดี โดยการนำลูกมะนาวมาหั่นครึ่ง บีบเอาแต่น้ำออก ใช้ประมาณ 2-3 ลูก แล้วนำมาผสมกับน้ำอุ่นปริมาณก้นแก้ว เติมเกลือเล็กน้อย จะช่วยบรรเทาอาการไอได้ และยังสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ใน 1 วัน ไม่ควรที่จะรับประทานมากเกินไป เพราะมะนาวมีรสเปรี้ยว การรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้ท้องเสียได้

มะขามป้อม หากนำมะขามป้อมผสมกับเกลือเล็กน้อย แล้วอมไว้ในปาก ผู้ที่ร้องเพลงดื่มก็จะทำให้มีเสียงที่ดีขึ้น เพราะช่วยทำให้ชุ่มคอ แต่หากนำมาเป็นยาสมุนไพรแล้ว มะขามป้อมนั้น สามารถบรรเทาอาการไอ และยังละลายเสมหะได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยการนำมะขามป้อมสักหนึ่งกำมือมาต้มกับน้ำจนเดือด แล้วจิบบ่อย ๆบรรเทาอาการไอ หากน้ำต้มมะขามป้อมเริ่มเย็นก็ควรอุ่นให้พอร้อนแล้วจิบเรื่อย ๆ หรือดื่มแทนน้ำเปล่าได้เลยยิ่งดี

ขิง สมุนไพรชนิดนี้นั้นมีรสชาติเผ็ด และร้อนคล้ายกับพริกไทย แต่หากนำมาเป็นสมุนไพรใช้บรรเทาอาการไอนั้นก็จะเห็นผลได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทำได้ 2 วิธีการ

  • นำขิงมาหักสัก 1 ข้อ แล้วต้มกับน้ำจนเดือด จิบเรื่อย ๆบรรเทาอาการไอ และยังสามารถช่วยขับลมในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
  • นำขิงมาบดให้ละเอียดจนเป็นผง แล้วนำผงนั้นมาผสมกับน้ำอุ่นดื่มตามที่ต้องการ ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการไอได้เช่นกัน

กระเจี๊ยบแดง สมุนไพรชนิดนี้มักมีผู้คนนำมาทำเป็นเครื่องดื่มกันมากนัก เพราะมีฤทธิ์ช่วยในการแก้อาการกระหายน้ำได้เป็นอย่างดี แต่หากนำมาต้มแล้วดื่มแบบอุ่นก็จะได้อีกสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการไอได้ โดยส่วนของต้นกระเจี๊ยบที่นำมาใช้ในการทำเครื่องดื่ม และสมุนไพร มักจะเป็นดอกกระเจี๊ยบ

ทั้งนี้นอกจากการรับประทานสมุนไพรเพื่อช่วยในการบรรเทาอาการไอแล้ว ผู้ที่มีอาการไอ ไม่ควรดื่มน้ำเย็น เพราะจะยิ่งทำให้อาการไอนั้นมากขึ้น ควรดื่มเฉพาะน้ำอุ่นเท่านั้นในขณะที่มีอาการไอ เพื่อช่วยทำให้ชุ่มคอ การจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆก็เป็นอีกวิธีการธรรมชาติหนึ่งที่สามารถช่วยบรรเทาอาการไอได้เช่นกัน

 

สนับสนุนโดย  แทงบอล next88