ปลูกกระเพราในบ้านแบบง่ายๆ

สำหรับคนทางทีมงาน nowbet  ของเราจะมาแนะนำวิธีปลูกกระเพราเพื่อมากินเองโดยปลูกในบริเวณโดยรอบบ้านของเราแบบวิธีง่ายๆ โดยไม่ต้องไปหาซื้อเพราะว่ากระเพรานั้นถือได้ว่า เป็นผักสวนครัวที่ได้รับการนิยมมากจากเราแม่บ้าน โดยส่วนใหญ่แล้วนะมักจะนำมาประกอบอาหาร ดังนั้นการปลูกกระเพราไว้ที่บ้านจึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ง่ายและไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้คุณได้อีกด้วยและการดูแลรักษานั้นก็ถือได้ว่าไม่ยากเท่าไหร่นะและยังปลอดยาฆ่าแมลงอีกด้วยนะ

ก่อนอื่นเรามารู้กันก่อนว่าเรานั้นมีประเภทแยกออกไปด้วยกัน 3 ประเภทนั่นก็คือ ใบเขียวก้านแดง ใบเขียวก้านเขียว และใบแดงก้านแดง

การปลูกกระเพราในกระถางมีข้อดีดังต่อไปนี้

สำหรับปลูกกระเพราในกระถางถือได้ว่าไม่ได้เลวร้ายนะแถมยังช่วยประหยัดเนื้อที่ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเนื้อที่ในการเพาะปลูกหรือมีดินค่อนข้างที่จะน้อย โดยการปลูกเหล่านี้สามารถปลูกได้ทุกที่เพราะไม่ว่าจะเป็นอยู่บนตึกบนอาคารหรืออะไรก็ตามแต่ที่มีพื้นที่เล็กน้อยก็สามารถปลูกได้เช่นกัน แถมการปลูกกระเพรานี้ยังมีวิธีที่ง่ายไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำหรือการดูแลต่างๆ แถมการปลูกในกระถางนี้ยังสามารถเคลื่อนย้ายขยับพื้นที่ได้อีกด้วยนะ

วิธีการปลูกกระเพราด้วยเมล็ด

วิธีปลูกกระเพรานี้สามารถทำได้ดังต่อไปนี้นั่นก็คือท่านจะต้องเตรียมดินที่จะนำลงไปในกระถางหรือดินที่จะเอาไว้ในการปลูกกระเพรา หลังจากที่เตรียมดินเสร็จแล้วให้คุณหวานเมล็ดลงไปให้ทั่วทั้งกระถางหรือภาชนะที่คุณเตรียมไว้ จากนั้นให้คุณใช้ฟางกบไปที่เมล็ดที่คุณหว่านหรือวางฟางกระจายตามหน้าดินหรืออาจจะใช้เป็นปุ๋ยก็ได้เช่นกัน จากนั้นให้คุณลดน้ำตามในทันทีที่คุณทำการปลูกโดยเสร็จแล้วข้อควรระวังควรใช้น้ำที่มีลักษณะรูค่อนข้างเล็กหรือใช้ผ่านฝักบัวไม่ควรใช้น้ำที่เป็นสายยาง

หรือเทจากขวดทำการปลูกเสร็จหลังจากนั้นประมาณ 7 วันน่าจะได้เมล็ดจะทำการงอกออกมาเป็นรูปแบบของต้นกล้า จากนั้นให้ทำการรอจนต้นกล้าอายุประมาณได้ 1 เดือน จากนั้นให้ค่อยทำการแยกเพื่อเป็นการจัดระยะของต้นกระเพรา โดยท่านควรทำให้มีระยะห่างประมาณ 20 ถึง 30 เซนติเมตร จากนั้นก็เพียงแค่รอให้มันโตเต็มที่แล้วจึงนำมาประกอบอาหารได้ตามใจชอบ

วิธีการดูแลต้นกระเพรานั้นสามารถทำให้ได้ง่ายๆ เพราะเพียงแค่คุณลดน้ำเช้าและเย็นอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้เองจะทำให้ต้นกะเพราของคุณนั้นเติบโตได้อย่างง่ายดายแถมวิธีนี้ไม่ต้องใช้สารหรือฉีดยาฆ่าแมลงด้วยนะคะเป็นการเติบโตด้วยธรรมชาติของมันเอง

ไปเดินตลาดเองกับ delivery อย่างไหนเสี่ยงติดโควิด-19 มากกว่ากัน

ถึงแม้ทุกคนจะยังคงต้องหวาดกลัวกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กันอยู่  แต่ทุกคนก็ยังต้องกินต้องใช้อุปโภค บริโภคสินค้าต่างต่างอยู่ทุกวัน  ซึ่งหากคนเรายังต้องมีการกิน การใช้สินค้าแล้วละก็ เราก็ยังต้องเสี่ยงที่จะออกไปหาซื้อข้าวของเครื่องใช้อยู่บ่อย ซึ่งหลายคนบอกว่าการที่เราจะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น

เราควรจะลดการออกจากบ้านด้วย ดังนั้น หากเราจำเป็นที่จะต้องกินหรือซื้อข้าวของเครื่องใช้ เราจึงควรที่จะใช้บริการการจัดส่งสินค้ามาให้ที่บ้านด้วยการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตแทน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรค ยามเมื่อเราต้องออกไปนอกบ้านเพื่อไปซื้อของกินของใช้  แต่คำถามต่อมาคือ มันช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสได้จริงหรือ เรามาลองเปรียบเทียบความเสี่ยงในการที่เราจะสั่งซื้อสินค้ามาส่งที่บ้านกับการที่เราเสี่ยงที่จะออกไปซื้อสินค้าเอง อันไหนดูแล้วน่าจะปลอดภัยมากกว่ากัน 

     หากเราจำเป็นต้องออกไปซื้อของเองที่ร้านหรือตลาด  การเดินทางไปในสถานที่ที่มีคนอยู่เยอะจึงมีความเสี่ยงมากมาก เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนั้นเกิดมาจากการที่เราได้รับสารคัดหลั่งของคนที่มีเชื้อไวรัสแล้วนำมาเข้าสู่ร่างกาย จะด้วยการ จาม ไอ หรือแม้แต่เชื้อโรคที่เป็นละอองฝอยที่มีลอยอยู่ในอากาศในรัศมี 2 เมตร

ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นว่าทางการจะมีการรณรงค์ให้คนอยู่ห่างกันประมาณ 1-2 เมตรขึ้นไป ซึ่งการที่เราออกมาซื้อของข้างนอกแบบนี้ การเดินห่างกัน 1-2 เมตรอาจจะทำได้ค่อนข้างยาก และที่สำคัญ ยังมีปัจจัยอื่นอื่นอีกเช่น การที่เราหยิบจับสิ่งของต่อจากคนอื่น เช่น การหยิบเงินทอน การรับบัตรคิวหรือบัตรจอดรถตามห้าง หรือแม้แต่การกดเงินจากตู้ เอทีเอ็มล้วนจะส่งผลทำให้เราติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทั้งสิ้น ซึ่งเราจึงต้องป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา และต้องล้างมือบ่อยบ่อย ใช้เจลแอลกอฮอร์เช็ดมือทุกครั้งก่อนทีจะหยิบจับอะไร 

     แต่หากเราสั่งอาหาร หรือสั่งสินค้าให้มาส่งที่บ้าน ความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ย่อมมีน้อยกว่าการเดินทางออกไปข้างนอกแน่อน เพราะเราไม่ต้องเข้าไปรับบรรยากาศที่อาจจะมีเชื้อโรคลอยอยู่ในอากาศ แต่เราจะมีความเสี่ยงตรงที่เราจะสัมผัสถุงที่ใส่สินค้า และการคุยตอบโต้กับคนส่งของ ซึ่งวิธีการป้องกันก็คือ ตอนออกมารับของก็ควรจะใส่หน้ากากอนามัย

และก่อนที่จะหยิบถุงสินค้าก็ควรใช้เจลทำความสะอาดมือให้เรียบร้อยก่อน ให้พนักงานวางของเอาไว้ที่หน้าประตูแล้วค่อยเดินไปหยิบสินค้าที่สำคัญการจ่ายเงิน เราสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ จึงไม่มีผลต่อการหยิบจับเงินทอน และที่สำคัญเราอยู่บ้านเราสามารถล้างมือได้ทันท่วงทีก่อนที่เราจะเอามือไปสัมผัสหน้าตัวเองซึ่งอาจจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ 

 

สนับสนุนโดย  bk8

ผลไม้ลดความอ้วน ดีต่อการขับถ่าย

อาหารลดความอ้วน คนจำนวนไม่น้อยจำเป็นต้องระลึกถึงผักและก็ผลไม้ แต่ว่าเมื่อเอ๋ยถึงผลไม้แล้ว ผู้คนจำนวนมากก็บางทีก็อาจจะจะต้องงงงันด้วยเหตุว่าผลไม้บางประเภทรับประทานแล้วทำให้อ้วน บางประเภทก็ไม่ทำให้อ้วน เหมาะสมที่จะคือผลไม้ลดความอ้วน วันนี้พวกเราจะทราบได้ยังไงว่าผลไม้จำพวกไหนรับประทานลดหุ่นได้ พวกเราพร้อมที่จะพาผู้หญิงไปทำความรู้จักกันแล้ว

แอปเปิ้ล

ลูกแอปเปิ้ลขึ้นชื่อว่าเป็นราชาผลไม้ลดความอ้วนที่อุดมไปด้วยใยอาหารหรือเส้นใยจำนวนมาก ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายปฏิบัติงานชำนาญ แถมยังมีวิตามิน แล้วก็เกลือแร่ที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย เมื่อทานเข้าไปแล้วจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน ลดปัญหาเกี่ยวกับการรับประทานจุบจิบ ผลแอปเปิ้ล 1 ผล ให้แคลอรีราวๆ 60 กิโลแคลอรี และก็ยังช่วยทำให้ผิวพรรณงามใสจากวิตามินในลูกแอปเปิ้ลอีกด้วย

สับปะรด

สับปะรดมีคุณประโยชน์เด่นๆเป็นมีโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีโบมีเลียม ช่วยสำหรับในการย่อยของกินได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ร่างกายดูดซับสารอาหารไปเพื่อเป็นการหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆได้ง่าย ถ้ากินสัก 2-3 ชิ้น ก็จะให้พลังงานราว50-70 กิโลแคลอรี สำหรับสับปะรดยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และก็ยังมีเส้นใยสูง มีสาระสำหรับเพื่อการย่อยยังน้อยเกินไป ยังเป็นเหตุให้คุณอิ่มได้นานขึ้นอีกด้วย คนไหนกันแน่ที่กำลังลดความอ้วน ต้องการมีหุ่นที่กระชับ สับปะรดช่วยตอบปัญหาได้ดิบได้ดีทีเดียว

ส้ม

ส้มคือผลไม้ที่หารับกินได้ง่าย แถมอร่อยรวมทั้งมีวิตามินซีสูง อีกทั้งมีไธอามีนแล้วก็โฟเลทที่ช่วยทำให้ระบบการเผาไหม้ดำเนินการได้ดิบได้ดี ยิ่งกว่านั้นยังมีเส้นใยที่ดีต่อระบบขับถ่ายอีกด้วย โดยส้ม 2 ผล จะให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรีแค่นั้น ส้มมีกากใยจะช่วยปรับให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วแล้วก็ช่วยทำให้ระบายท้องได้ดิบได้ดี ก็เลยเหมาะสมที่จะคือผลไม้ลดความอ้วน

มะละกอ

มะละกอช่วยให้การขับถ่ายทำงานได้ดีอย่างสะดุดตา แม้กระนั้นโน่นก็ไม่ใช่ผลดีเพียงอย่างเดียวของมะละกอ ด้วยเหตุว่าในมะละกอยังมีเส้นใยอย่างมากมายรวมทั้งมีโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีช่วยสำหรับการย่อย ทำให้ของกินที่พวกเรารับประทานเข้าไปถูกย่อยและก็ซับได้อย่างไม่ยากเย็น ในมะละกอสุก 8 ชิ้น จะให้พลังงานราวๆ 60 กิโลแคลอรี แล้วก็ที่สำคัญในมะละกอยังมีสารฟลาโวนอยด์ แคโรทีน แล้วก็วิตามินซีที่ช่วยสำหรับในการต้านทานอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเสื่อมของผิวพรรณให้มองอ่อนวัย ต่อสู้กับไขมันส่วนเกินของร่างกายได้ด้วย

แก้วมังกร

แก้วมังกรคือผลไม้ที่มีคุณค่าทางของกินสูง แก้วมังกรขนาด 200 กรัม ให้พลังงานโดยประมาณ 60 กิโลแคลอรีแค่นั้น ก็เลยจัดได้ว่าคือผลไม้ลดความอ้วนที่รับประทานแล้วไม่อ้วนแน่ๆ เพราะว่าสารไม่วสิเลจในแก้วมังกรมีลักษณะเหมือนวุ้นเจล ช่วยสำหรับเพื่อการซับน้ำภายในร่างกาย กินแล้วอิ่มท้องนาน ยิ่งกว่านั้นยังอุดมไปด้วยวิตามินแล้วก็แร่ที่มีสาระต่อสุขภาพหลากหลายประเภท แต่ว่าการกินแก้วมังกรมิได้ช่วยสำหรับในการลดหุ่นเพียงอย่างเดียวแค่นั้น เนื่องจากยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึงแล้วก็มองอ่อนกว่าวัยได้อีกด้วย

แตงโม

แตงโมลูกโตๆรสหวานมีอีกทั้งธาตุแล้วก็วิตามินหลายประเภท ช่วยทำนุบำรุงผิวพรรณของผู้หญิงอีกทั้งช่วยล้างไต ขับฉี่ ขับของเสียภายในร่างกาย และก็ช่วยลดหุ่น รับประทานแล้วไม่ทำให้อ้วน โดยแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานประมาณ60-80 กิโลแคลอรีเพียงแค่นั้น รวมทั้งยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ขององค์ประกอบทั้งปวง ก็เลยทำให้ท่านรู้สึกอิ่มเร็ว ถ้าเกิดรับราวๆแตงโมแทนอาหารเย็นก็จะช่วยลดความอ้วนได้ แถมยังช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใสแล้วก็ชุมเปียกชื้นขึ้นอีกด้วย แม้กระนั้นยังไงก็ไม่สมควรทานเยอะเกินไป เนื่องจากว่าการทานแตงโมในจำนวนมากอาจส่งผลให้ท้องเดินแล้วก็ปวดท้องฉี่เป็นประจำทานแตงโมพร้อมกันกับผลไม้ลดหุ่นประเภทอื่นๆด้วยจะเยี่ยมที่สุด